RAIN...RAIN.....RAIN.....RAIN.....So sexy..So hot ..So cute...ect.........

nana555
[ 25-09-2016 - 06:00:22 ]







nana555
[ 25-09-2016 - 06:03:25 ]







nana555
[ 25-09-2016 - 06:07:55 ]







nana555
[ 25-09-2016 - 06:08:50 ]







nana555
[ 25-09-2016 - 06:09:35 ]







nana555
[ 25-09-2016 - 06:10:04 ]









nana555
[ 25-09-2016 - 06:10:54 ]







nana555
[ 25-09-2016 - 06:11:15 ]









nana555
[ 25-09-2016 - 06:12:17 ]







nana555
[ 25-09-2016 - 06:14:48 ]







[08-31] Military Culture Magazine HIM

Military Culture Magazine HIM


Source : http://himnanum.tistory.com/307





nana555
[ 25-09-2016 - 06:14:58 ]







nana555
[ 26-09-2016 - 22:43:09 ]







เรน "ผมเป็นสินค้าทางวัฒนธรรม ซึ่งเป็นผลลัพธ์จากการวางแผนและลงทุนมาอย่างรอบคอบ

เมื่อวันคริสต์ฺมาสอีฟปีที่แล้ว แฟน ๆ ของเรนจับจองเต็มหมด 4,000 ที่นั่งในห้องโคลอสเซียม โรงแรมซีซาร์พาเลซ เมืองลาสเวกัส เรารู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของการยอมรับในตัวเรนในสหรัฐอเมริกา หลังจาก 3 ปีที่แล้วที่เขาเคยมาจัดคอนเสิร์ตในสหรัฐฯ มาครั้งนี้เขาได้มาจัดคอนเสิร์ต (Legend of Rainism) ในสหรัฐฯ อีกครั้ง ผู้ชมมีทั้งคนผิวขาว แฟนคลับจากจีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ ฯลฯ ตลอดการแสดง 2 ชั่วโมง ท่วงท่า รอยยิ้มและการเต้นของเขา สะกดใจแฟน ๆ ไว้ได้อยู่หมัดและมีเสียงปรบมือตลอดเวลา

ไม่ใช่แค่ตัวเขาคนเดียว แต่แม้กระทั่งประชาชนทั่วไปก็มองว่า เรนคือสินค้าทางวัฒนธรรมชิ้นสำคัญ

เขาคือตัวอย่างโดดเด่นของนักร้องและนักแสดง ผู้ก้าวออกไปจากทวีิปเอเชียและประสบความสำเร็จในการทิ้งรอยเท้าไว้บนเวทีโลก

นอกจากเป็นนักเต้นที่ดีที่สุดในเกาหลีแล้ว เขายังตอกย้ำสถานะของการเป็นสตาร์แห่งเอเชียด้วยทัวร์คอนเสิร์ตระดับโลก ตอนนี้เขาเป็นนักแสดงที่ดึงดูดความสนใจในฮอลลีวู้ด

เราพบเขาในห้องแต่งตัวก่อนคอนเสิร์ต

เราถามเขาว่า "ก่อนที่คุณจะกลายเป็นเวิลด์สตาร์ คุณเคยมีกิจกรรมในส่วนต่าง ๆ ของโลกมาแล้ว คุณรู้สึกอย่างไรกับเรื่องนี้?"

เขาตอบว่า "มันคืออำนาจของคอนเทนต์ทางวัฒนธรรม

"ผมอยากเป็นสินค้าทางวัฒนธรรมที่ทรงอำนาจและมีอิทธิพล

"มีคนมากมายเริ่มหันมาเรียนภาษาเกาหลี เพราะอิทธิพลของศิลปินหรือละครเกาหลี มีบางที่ที่ถือว่าภาษาเกาหลีเป็นภาษาที่สอง ผมเคยคิดว่า สินค้าส่งออกที่สำคัญก็มีแค่รถยนต์ คอมพิวเตอร์และเซมิคอนดักเตอร์ แต่ตอนนี้ผมคิดว่า สิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งอีกอย่างหนึ่งก็คือ การทำให้ชาวต่างชาติเข้าใจเกาหลีมากขึ้น เรียนรู้ภาษาของเรา เพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวหรือการแลกเปลี่ยนเงินตรา รวมทั้งจากสินค้าทางวัฒนธรรมด้วย"

เรนกล่าวต่อไปว่า "สินค้าทางวัฒนธรรมนั้นมีพลานุภาพเหนือกว่าอาวุธและความรุนแรง ในสมัยที่ประเทศญี่ปุ่นรุกรานเข้ามา ประชาชนคิดว่ามีเพียงจิตวิญญาณทางวัฒนธรรมเท่านั้นที่จะช่วยฟื้นฟูประเทศจากการถูกยึ
ดครอง มีคำพังเพยกล่าวว่า จิตวิญญาณทางวัฒนธรรมสามารถต่อกรกับอาวุธและความรุนแรงได้ ผมไม่แน่ใจว่าคำพังเพยนี้มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอื่นหรือเปล่า อย่างไรก็ตาม ถ้าเราสามารถควบคุมเนื้อหาทางวัฒนธรรมไว้ได้ ก็ดูเหมือนว่านั่นจะเป็นสิ่้งที่ร้ายกาจกว่าอาวุธและความรุนแรง"

เขายังเล่าให้เราฟังเกี่ยวกับภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดเรื่อง "Ninja Assassin" ซึ่งเขาแสดงนำและประสบความสำเร็จในบ๊อกซ์ออฟฟิศ "ผมได้เดินทางและมีกิจกรรมในวอชิงตัน แอลเอ โทรอนโต ฯลฯ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องนี้ คนที่มาชมภาพยนตร์ต่างพากันพูดว่า 'ว้าว หนังเรื่องนี้มันส์มาก นักแสดงนำชื่ออะไรนะ?' แล้วคำถามต่อมาก็คือ 'เขาเป็นคนชาติไหน?'"

จากประสบการณ์นี้ เรนกล่าวว่า "ผมรู้สึกว่าผมมีภารกิจในการเป็นสินค้าทางวัฒนธรรมที่ทรงพลัง"

"อดีตซีอีโอของบริษัท Taiyu (??ไม่แน่ใจเกี่ยวกับชื่อบริษัท) เคยพูดไว้ว่า ในอดีต 'โลกใบนี้ใหญ่มาก ยังมีอะไรต้องทำอีกมาก' เนื่องจากผมได้ทำงานในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก ผมจึงเข้าใจความหมายในคำพูดของเขาอย่างถ่องแท้ ผมควรเป็นสินค้าทางวัฒนธรรมที่มีอำนาจและมีอิทธิพลอย่างแท้จริง ในตลาดด้านคอนเทนต์ทางวัฒนธรรมนั้น สัญชาติหรือคำว่า 'Made in Korea' เป็นสิ่งที่สำคัญมาก การเป็นส่วนหนึ่งของทรัพยากรมนุษย์จะช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศเรา หากมาตรฐานของคอนเทนต์ทางวัฒนธรรมได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น มันก็น่าจะมีส่วนช่วยต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจด้วย"

เขาเล็คเชอร์ต่อไปว่า "สิ่งที่เป็นตัวแทนของเกาหลีมากที่สุดไม่ได้หมายความว่ามันจะเป็นตัวแทนของทั่วโ
ลกได้" เขาพบว่าการยึดมั่นถือมั่นในความเชื่อและความเป็นเกาหลีคือสาเหตุที่ทำให้เขาล้มเหลว
ซ้ำแล้วซ้ำเล่า วิถีทางที่ดีที่สุดคือการหลอมรวมแนวคิดของเกาหลีกับทั่วโลกเข้าด้วยกัน

"ตัวละครนินจาในหนังเรื่อง Ninja Assassin ถึงแม้เขาเป็นคนเอเชีย แต่ผู้กำกับชั้นยอดอย่างวาโชว์สกี้และทีมสตันท์รู้ดีว่า เราจะประสบความสำเร็จได้ก็ด้วยการแสดงให้ผู้ชมเห็นถึงสิ่งที่พิเศษและแตกต่าง"

การที่วัฒนธรรมเอเชียจะกลายเป็นวัฒนธรรมระดับโลก ไม่ใช่เรื่องไกลเกินไปแล้ว

หากต้องการเทียบชั้นฮอลลีวู้ด เรนแสดงความคิดเห็นว่า "จริง ๆ แล้ว เราไม่สามารถเอาอย่างการปฏิบัติของหนังอเมริกันที่ลงทุนอย่างมโหฬารหรือมีตลาดขนาดให
ญ่ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะลงทุน 1000 ล้านวอนเพื่อถ่ายหนังในเกาหลี เพราะนั่นหมายความว่าคนเกาหลีทุกคนต้องออกไปดูหนังเรื่องนั้นถึง 4 ครั้งกว่าหนังเรื่องนั้นจะคุ้มทุน"

อย่างไรก็ตาม เขาคิดว่ามันจะมีข้อได้เปรียบหากเกาหลี จีนและญี่ปุ่นร่วมมือกันและวัดรอยเท้ากับสหรัฐฯ

"ถ้าเราหลอมรวมความอ่อนไหวและทรัพยากรมนุษย์ของเกาหลี ความละเอียดอ่อนและประณีตบรรจงในทุกรายละเอียดของญี่ปุ่น การลงทุนและประชากรอันมหาศาลในจีน ผลลัพธ์ก็อาจทรงพลังเพียงพอที่จะสู้กับฮอลลีวู้ด วัฒนธรรมที่มาจากสหรัฐฯ กำลังอยู่ในช่วงขาลง ตอนนี้เป็นเวลาของเอเชียหรือยุโรป (ต้นกำเนิดของแนวคิดใหม่ ๆ) ในอนาคต สตาร์จากเอเชียก็สามารถเป็นเวิลด์สตาร์ได้"

การเป็นส่วนหนึ่งในยุทธศาสตร์นี้ เรนวางแผนที่จะมีส่วนร่วมในละครร่วมสร้างระหว่างเกาหลี จีนและญี่ปุ่นที่จะลงมือสร้างในเดือนกรกฎาคมนี้ "ละครเรื่องนี้มีแผนที่จะออกฉายในเอเชียก่อน จากนั้นเราน่าจะดึงดูดเงินลงทุนจากเอเชียหรือแม้กระทั่งจากสหรัฐฯได้ จากนั้นเราก็สามารถลองสร้างละครที่มุ่งเป้าตลาดโลก ผมมองเห็นความเป็นไปได้สูงมากที่จะประสบความสำเร็จ"

เขาได้แนวคิดพวกนี้มาจากไหน? "ผมได้พบคนเก่ง ๆ มากมาย บางครั้งพวกเขาก็บอกว่า 'มันน่าจะดีนะถ้าได้สร้างเป็นซีรีย์ คุณอยากลองดูไหม?' แนวคิดค่อย ๆ สั่งสมมาแบบนี้ ผมยังได้ไอเดียมาจากการพบปะสังสรรค์กับนักลงทุนในอุตสาหกรรมทางวัฒนธรรมด้วย"

เรายังพูดถึงยุทธศาสตร์ทางวัฒนธรรมท้องถิ่น เขากล่าวว่า กระแสเกาหลีไม่มีทางคงอยู่ได้ ถ้ามันไม่หลอมรวมกับวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างเต็มที่ "ในสมัยก่อน เช่นช่วงปลายทศวรรษ 1980 ตอนที่หนังอย่าง 'โหด เลว ดี' 'โหดตัดโหด' ซึ่งสะท้อนความไม่้มั่นคงทางสังคมในฮ่องกง นั่นเป็นตอนที่ผมเกิด ถึงแม้มีคนเกาหลีคาบไม้จิ้มฟันและเดินเลียนแบบ (ดาราในหนัง) ไปทั่ว แต่มันก็แค่นั้น ผมคิดว่าปัญหาหลัีกก็คือมันไม่ได้หลอมรวมกับวัฒนธรรมท้องถิ่น ถ้าสมัยนั้น ศิลปินชาวฮ่องกงสามารถพูดภาษาเกาหลีหรือพูดอังกฤษคล่อง พวกเขาย่อมสามารถยึดพื้นที่ในฮอลลีวู้ดและเป็นที่นิยมมาจนถึงทุกวันนี้ได้

เพื่อไม่ให้ก้าวพลาดแบบนั้นอีก เรนจึงพยายามอย่างหนักในการเรียนภาษาอังกฤษ เพื่อให้กลมกลืนกับวัฒนธรรมท้องถิ่น เขาจึงพยายามใช้วิธีการที่แตกต่างออกไปในสหรัฐฯ ยุทธวิธีหลอมรวมกับวัฒนธรรมท้องถิ่นเป็นสิ่งที่ใช้ได้ทั้งในจีนและญีปุ่น "ถ้าคุณต้องการสื่อสารกับคนจีน คุณก็ต้องเรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมจีน ผมคิดว่าผมต้องเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นให้ได้ในระดัีบหนึ่งด้วย ผมวางแผนว่าจะเรียนให้มากขึ้นในปีนี้"

คนเราจะประสบความสำเร็จได้ก็ด้วยความมานะอดทนและความภูมิใจในตัวเอง

เรนบอกว่าสำหรับตัวเขาแล้ว ผลลัพธ์สุดท้ายมีความสำคัญมากกว่ากระบวนการ ต่อให้คนเราพยายามทำอะไรแค่ไหน แต่ถ้าผลลัีพธ์ออกมาไม่ดี คนอื่น ๆ ก็จะแค่พูดว่าคน ๆ นั้นล้มเหลว ถ้าพูดโดยใช้หลักการตลาด "ผมคิดว่าผลลัพธ์สุดท้ายเป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้ามันจำเป็นต้องทำให้ได้ขนาดไหน คุณก็ต้องทำให้ได้ขนาดนั้น ไม่ว่าคุณจะต้องอดทนกับความยากลำบากแค่ไหนก็ตาม"

อะไรคือแรงบันดาลใจเบื้องหลังที่ทำให้เรนเป็นแบบนี้? เขาตอบทันทีว่า "แม่ของผม แม่สอนอะไรให้ผมมากมาย" เขาบอกว่าเขายังต้องเรียนรู้จาก JYP อีกเยอะด้วย

แล้วมีเหตุผลอื่นอีกไหม? แน่นอน ยุทธศาสตร์และการลงทุนคือสิ่งจำเป็นที่ทำให้เรนเป็นเรนทุกวันนี้ "ตัวผมในฐานะสินค้าก็มียุทธศาสตร์และแผนการลงทุนของตัวเอง ผมเป็นสินค้าที่ 'ถูกสร้างขึ้น' ผมหวังว่าพวกคุณคงไม่มีทัศนะแง่ลบเมื่อได้ยินคำว่า 'สินค้า' ไม่ใช่เรื่องผิดที่จะเป็นสินค้าที่มีพลังและมีอิทธิพล ผมต้องแข็งแกร่งและทรงพลัง ไม่อย่างนั้น ศิลปินรุ่นน้องจะต้องเจอเส้นทางขรุขระในภายภาคหน้าเป็นแน่"

ถึงแม้เขาบอกว่า เขาได้ทำฝันให้เป็นจริงมามากในชั่วเวลาสั้น ๆ แต่ก็ยังมีหนทางข้างหน้าอีกยาวไกล

"ผมหวังว่าในเวลาอีก 5-10 ปีข้างหน้า ผมจะได้เป็นนักแสดงใหญ่ที่เป็นหน้าตาของเอเชีย ดูเหมือนแฟน ๆ อยากให้ผมเป็นนักแสดงมากกว่านักร้อง"

เขายังมีความปรารถนาที่จะก่อตั้งมูลนิธิ

"ผมพยายามอย่างหนักที่จะหาเงินในตอนนี้ เพราะผมอยากก่อตั้งมูลนิธิขึ้นมา ถึงแม้ผมไม่มั่นใจว่าจะทำสำเร็จ แต่ผมอยากก่อสร้างสถานที่สักแห่งในเกาหลี เพื่อให้เป็นสถาบันสำหรับสอนเด็ก ๆ ที่อยากร้องเพลง เต้นรำหรือเป็นนักแสดง"


English to Thai by Zhouyuyee@onlyrain//pantip.com
nana555
[ 26-09-2016 - 22:43:34 ]







สัมภาษณ์รายการ “Fuji TV-Kantame” วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2006
Credit: Baidu.com// jinlees@soompi
Kr to Ch: moritayoshi@biwithrain
Ch to Eng: Rayndrop
Eng to Tha: Ririn


พิธีกร – ตอนนี้ลองนึกย้อนกลับไป คุณมีช่วงเวลาไหนบ้างที่รู้สึกว่านี่แหละเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากจริงๆสำหรับคุณ

พี – ย้อนไปปี 1999 ผมโตมาในครอบครัวที่มีอันจะกิน แต่หลังจากที่ผมอยู่ไฮสคูลปีที่สาม ฐานะครอบครัวของผมก็เริ่มแย่ลง เราประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก ไม่มีเงินแต่แต่จะรักษาแม่ที่กำลังป่วยหนัก แล้วแม่ก็จากไปในเวลาไม่นานนัก จากนั้นทั้งพ่อ ทั้งน้อง ทุกคนก็เดินทางใครทางมัน ผมเริ่มใช้ชีวิตอยู่ในสตูดิโอเต้นรำ ระหว่างช่วงเวลาที่หนาวเย็นที่สุดของฤดูหนาว ผมต้องนอนบนเตียงโดยที่ไม่มีผ้าห่ม หลังจากการฝึก ผมเข้านอนทั้งๆที่เหงื่อท่วมตัวโดยไม่อาบน้ำ ในเมื่อไม่มีเงินแม้แต่จะซื้อข้าวเรื่องอาบน้ำคงไม่ต้องพูดถึง
ห้าวันเต็มๆที่ผมใช้ชีวิตโดยไม่มีเงินซื้อข้าวและไม่มีผ้าห่ม เป็นประสบการณ์ที่เจ็บปวดจริงๆ ผมต่อสู้กับความหิวโหยด้วยความตั้งใจและความมุ่งมั่น ประสบการณ์นั้นกลายมาเป็นกำลังให้ผมยืนหยัดอยู่จนทุกวันนี้ ทำให้ผม ทำงานหนักและรักษามันไว้ ยังมีช่วงเวลาคริสมาสต์ที่ผมป่วยเป็นไข้หวัดเนื่องจากไม่ได้อาบน้ำอุ่น
ตอนนี้ ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรที่ผมต้องเจอ ผมจะคิดถึงช่วงเวลาเหล่านั้น เพราะปัญหาที่เผชิญอยู่จะกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยไปทันที


พิธีกร- คุณช่วยแบ่งปันความมุ่งหวังและความฝันในอนาคตข้างหน้ากับเราหน่อยได้ไหม ไม่ว่าจะเป็นในฐานะเรนหรือในฐานะที่เป็นตัวของคุณเอง


– คุณเกิดมาครั้งเดียวเท่านั้น ดังนั้นผมกลัวความผิดหวังและพยายามที่จะทำทุกอย่างให้สำเร็จเร็วๆ คุณไม่สามารถหยุดหรือย้อนเวลาได้ ดังนั้นผมจึงทำงานหนักทุกๆวินาทีของชีวิตผม ถ้าผมคิดแบบนี้ ความฝันของผมก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เริ่มแรก ความฝันของผมคือแค่เต้นให้ดีที่สุด หลังจากที่สำเร็จแล้วขั้นต่อไปก็ร้องเพลงให้ดี ความฝันนี้ก็เป็นจริงแล้ว อย่างที่สามคือการเป็นนักร้อง และตามมาด้วยอย่างที่สี่คือการได้รับรางวัล อย่างที่ห้าคือเปิดตลาดที่ใหญ่ขึ้น แบบนั้นความฝันของผมก็เริ่มมากขึ้นจนถึงเดี๋ยวนี้ และแน่นอนในความสำเร็จนั้น ผมต้องเตือนตัวเองไม่ให้เหลิง ผมอยากจะลองดูว่าที่สุดของคนๆหนึ่งจะสามารถทำอะไรให้สำเร็จได้บ้าง และจะก้าวไปได้ไกลที่สุดแค่ไหน วันไหนผมตายไป ผมจะลองย้อนกลับมาดูว่าผมล้มเหลวหรือทำอะไรสำเร็จไปบ้าง ผมไม่ใส่ใจว่าอย่างไหนจะมากกว่ากันแต่ผมต้องการเพียงจะรับรู้ว่ผมได้ทำดีที่สุดที่จะ


นำพาชีวิตไปในทางที่ดี ตราบเท่าที่ยังมีสิ่งที่ผมทำได้ ผมก็จะทำ ผมจะท้าทายมัน ท้าทายในสิ่งที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้


***** นี่แหละเค้าหละ จองจีฮุน ผู้ที่เลือกไม่ยึดทางสายกลาง******


ข่าวนานแร้ววว แต่ ประทับใจ เก็บไว้อ่าน..

เวลา ท้อแท้..

รัก จีฮุน จัง.
nana555
[ 26-09-2016 - 23:19:49 ]







เก็บมาเป็นกำลังใจให้หนูต่าย และแฟนพีที่กำลังท้อแท้...

สปิริตแห่งวงการบันเทิงของเรน" ข้อเขียนถึงเรนหนังสือพิมพ์จีน

ตอนั้นเกือบจะสี่ทุ่มแล้ว ฉันเปลี่ยนช่องทีวีไปเรื่อยๆ จนมาเจอช่อง CCTV10 ตอนนั้นเป็นรายการ ชื่อว่า "People" และหัวข้อหลักในรายการวันนั้นคือซูเปอร์สตาร์ของเอเชียชาวเกาหลีใต้ "เรน"

ตอนนั้นฉันรู้สึกสงสัย เพราะ "People" ไม่ใช่รายการบันเทิง บุคคลก่อนๆ ที่พวกเขาเลือกมาออกรายการ ส่วนมากก็จะเป็น นักการเมือง, นักธุรกิข, นักวิชาการ มันแทบจะนึกภาพไม่ออกเลยว่า "People" จะนำเสนอเรื่องเกี่ยวกับเรน ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะศิลปินเพลง ยิ่งไปกว่านั้น สารคดีตอนนั้นยังออกอากาศถึง 2 วัน!!

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เรน คือ ศิลปนชาวเอเชียที่โด่งดังและทรงอิทธิพลที่สุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อิทธิพลของเขาแพร่กระจายไปทั่วเอเชีย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่เรียกว่าเป็นปาฏิหารย์! ผลงานของเขามีมากมาย ทั้งในวงการเพลง, โฆษณา, ภาพยนตร์ และ ละคร และ ในฐานะศิลปินเกาหลี เรน ยังสร้างปรากฎการณ์จากการประกาศรางวัล MTV Awards ของเอเชีย มาได้ในทุกประเทศ

ขณะเดียวกัน เรน ยังเป็นศิลปินเอเชีย คนแรกที่ได้ไปเปิดคอนเสิร์ต ที่เมดิสัน สแควร์ การ์เด้น ในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยที่ศิลปินต่างประเทศจะเจาะตลาดเพลงอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งศิลปินจากเอเชีย และ แน่นอนว่า เรนเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

จากบทสัมภาษณ์ใน สารคดีเกี่ยวกับ เรน ตอนนี้ คำว่า "การทำงาน และ การพยายามอย่างเต็มที่" มีให้เห็นในซับไตเติ้ลตลอดเวลา เพื่อที่จะสื่อสารกับแฟนเพลงได้ดีขึ้นเวลาเล่นคอนเสิร์ต เรน ลงทุนไปเรียนภาษาจีน, ญี่ปุ่น, อังกฤษ, ไทย และภาษาอื่นๆ และเพื่อให้ระบบแสงสีเสียงออกมาเพอร์เฟ็คที่สุด เขาทุ่มเทฝึกซ้อมตั้งแต่เช้าจนมืดค่ำ ซ้อมร้องซ้อมเต้น ครั้งแล้วครั้งเล่า

ทั้งการเรียนภาษาต่างประเทศ, การฝึกซ้อมเต้นและการแสดง งานทั้งหมดนี้กินเวลาในแต่ละวันของเรนไปถึง 20 ชั่วโมง ทำให้เขามีเวลาพักผ่อนน้อยนิดเพียงแค่ 3-4 ชั่วโมงเท่านั้น ตารางงานที่ยุ่งและหนักแบบนี้ เป็นคนอื่นคงทำไม่ได้ ต้องเป็นคนที่มีพลังเยอะเป็นพิเศษและมีความมุ่งมั่นจริงจังเท่านั้นถึงจะรับไหว!!

ตาชั้นเดียว, หุ่นที่เซ็กซี่ และ เสียงและลีลาการเต้นที่ดึงดูด ทั้งหมดนี่ประกอบกันขึ้นเป็น "เรน" ที่เราเห็นกันจนคุ้นตา เด็กหนุ่มร่าเริงผู้ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม เขาเก็บซ่อนน้ำตาและหยาดเหงื่อที่ไม่สิ้นสุดเอาไว้หลังกล้อง ทุกคนต่างก็ต้องมีเส้นทางและเป้าหมายชีวิตเอาไว้ในใจ และเพื่อที่จะไปถึงมัน พวกเขาต้องผ่านอุปสรรคและความยากลำบากมานับไม่ถ้วน แต่เพราะความไม่ย่อท้อและการทำงาน และจะต้องเจอกับปัญหา ทำให้ในที่สุด เรน ได้เป็นเจ้าของเกียรติยศ และความสำเร็จ ในวงการบันเทิงเอเชียทุกวันนี้ ทุกวันนี้มีแฟนเพลงเป็นพันๆ คน คอยติดตามเค้าไม่ว่าจะไปที่ไหน

มีหลายคนที่ยังคิดว่าคนที่มาจากวงการบันเทิงนั้น "สกปรก" "ต่ำต้อย" แต่ความจริงแล้ว ก็ยังมีหลายคนจากวงการนี้ ที่สามารถเป็นแรงบันดาลใจ และเป็นตัวอย่างที่ดีได้

"ผมหวังว่าชาวเอเชียนจะสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวกันได้ผ่านเสียงเพลง และฉันเชื่อว่าวันนึง เอเชีย จะก้าวไปเป็นผู้นำของโลกในงานด้านบันเทิง" นี่คือสปิริตอันแรงกล้าที่อยู่ในตัวเรน ซึ่งเป็นสิ่งที่ศิลปินคนอื่นๆ คนจะเรียนรู้จากเขา

และแน่นอนว่า เราหวังว่าแฟนเพลงที่คลั่งไคล้ในตัวเขา จะไม่ได้มองเรนเพียงแค่รูปลักษณ์ของเขา แต่ควรจะเรียนรู้ถึงสปิริตและทัศนคติที่ดีจากขวัญใจของพวกเขาคนนี้




Source: åˏB?ú?ñ (Heng Zhou Daily)
Up by gogo1437@rainhk.com
Translation by jjbug@MJJH||rain-malaysia.com

This post has been edited by jjbug on Aug 17 2006, 06:54 PM
แปลโดย .tzarina : Bi"s kingdom
nana555
[ 26-09-2016 - 23:48:49 ]







ตกเวทีที่ฮ่องกง..แขนหัก เจ็บขนาดนี้ยังเล่นต่ออีก..

************************

ข้อความของพีถึงแฟนที่ฮ่องกง ค่า...

translation:

dearest fans:
if it wasn"t for you guys, i wouldnt be here where i am today,
I have always struggled with my concious/ moral and loneliness,
Everyday I remind myself to brainstorm new ideas,
The pressure is so great that it can stop one"s footstep!
But it is this motivation that makes me desire to see the surpassing of our limits.
I will definately not back down becuase I know that even if i fall,
I will arise once again because of you,
Thank you so much for your support, do not forget that I love you very much!

Credit: QtyAngel29 // soompi



แฟน ๆ ที่รัก :

หากไม่ใช่เป็นเพราะพวกคุณ ผมคงไม่สามารถมาอยู่ ณ จุดนี้อย่างทุกวันนี้ได้
ผมมักจะต้องต่อสู้กับสติสัมปชัญญะ/ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีและความเปล่าเปลี่ยวอยู่เสมอ
ทุกๆ วัน ผมจะคอยเตือนตัวเองให้ค้นหาไอเดียใหม่ ๆ
ความกดดันนั้นยิ่งใหญ่จนอาจทำให้ก้าวย่างของคน ๆ นึงหยุดชะงักได้ !
แต่เพราะแรงจูงใจอันนี้นี่เองที่ทำให้ผมปรารถนาที่จะเห็นความยอดเยี่ยมที่ไม่มีขีดจำ
กัดของพวกเรา
ผมจะไม่มีวันหันหลังกลับอย่างแน่นอน
เพราะผมรู้ว่าถึงแม้ว่าผมจะล้มลง
ผมจะยังลุกขึ้นอีกครั้งได้?ก็เพราะพวกคุณทุกคนนั่นเอง
ขอบคุณทุกคนมาก ๆ ที่คอยสนับสนุนผมเสมอมา?
อย่าลืมว่าผมรักพวกคุณมากนะ !

Credit: QtyAngel29 // soompi //feoni@Bi"s Kingdom
Eng to Thai : J_Jea @Jihoon Republic_Pantip.TH
nana555
[ 26-09-2016 - 23:50:20 ]







กลับถึงเกาหลี รุ้ว่าแฟน ๆ ห่วง ก็ โพสข้อความนี้..บอกว่า เป็นแผลนิดหน่อย..โกหกไม่เก่งนะพี..
I"m home everyone!
jype
2007.01.16 16:16

I"m home.

While i was away are you all alright?

I"ve successfully completed the HK concert,eventhough i had a little accident
and i had a slight injury in my arm.

I heard that everyone was very worried about it,
Don"t worry about me,i"m okay. ^^

Don?t worry~

To my cloud family,you"ve always give me strength,After a few days i"ll be leaving for Singapore

I will do my best in Singapore!!I will try my best to be worthy


My proud cloud family,
Please take care of yourself and be healthy

Everyone together..Fighting
? ?? ??? The cloud Fighting~!!!

chi to eng : J.lee@soompi



คำแปลสารรักจากน้องพีจ้า


ผมกลับถึงเกาหลีแล้วครับทุกคน

ตอนที่ผมไม่อยู่ พวกคุณสบายดีกันใช่มั้ยครับ ^ ^

ผมเสร็จสิ้นคอนเสิร์ตจากฮ่องกงอย่างประสบความสำเร็จเรียบร้อยแล้วครับ

แม้ว่าผมจะประสบอุบัติเหตุเล็กน้อย ทำให้แขนของผมเป็นแผลนิดหน่อย

ผมได้ยินมาว่าทุกคนเป็นห่วงเรื่องนี้กันมั่กมาก แต่ไม่ต้องเป็นห่วงผมนะครับ ผมสบายดี ^ ^

ไม่ต้องเป็นห่วงน้า.....

ถึงครอบครัวคลาวของผม พวกคุณคอยให้ความเข้มแข็งกับผมอยู่เสมอ

อีก 2-3 วัน ผมก้อจะบินไปสิงคโปร์แล้ว ผมจะแสดงคอนเสิร์ตที่นั่นให้ดีที่สุด ให้สมกับที่ทุกคนรอคอย

ครอบครัวคลาวของผมครับ ดูแลตัวเองกันด้วยนะครับ
ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง

ทุกคนมาร่วมสู้ด้วยกันนะครับ สู้ ๆ สู้ตาย ^ ^


chi to eng : J.lee@soompi
eng to thai : ddj & Tempura @ pantip.com
credit:ddj@Bi"s Kingdom

nana555
[ 27-09-2016 - 00:15:49 ]







งานเพรสคอน ที่ฮ่องกง..ได้ของขวัญจากแฟน ๆ เป็นเครื่องบินบังคับ..พอได้ปุ๊ป
เธอก็ ไม่สนใจสัมภาษณ์แล้ว รีบถามหาคันบังคับเครื่องบิน ..พร้อมทั้งเล่นเครื่องบิน
แบบเนี๊ยะ..จนผู้จัดการต้อง..มาเก็บ..บอกว่า เอาไว้เล่นที่บ้าน 555++เด็กนะเนี่ย..

**************

อ้อ..มีงานแฟนมีท ที่เกาหลีอีก..ปีไหนจำไม่ได้แล้ว รู้แต่ว่า ได้ของขวัญเยอะมาก
ปีนั้นได้ของเล่นเยอะ เช่น ตู้หยอดเงิน กระเป๋าเงิน มอเตอร์ไซด์คันเล็ก ..
คือว่า ต้องบรรทุกรถสิบล้อกลับบ้านน่ะ หุหุ..
สาว ๆ ที่ไปตาม เล่าว่า หลังงานจบ เช้า..ก็ไปเฝ้า จีฮุน ที่หน้าบริษํท เพราะว่า เธอต้อง
เข้ามาทำงานทุกวัน...แต่..รอแล้ว รอเล่า..เด็กยักษ์ก็ยังไม่มาซักกะที..จนบ่ายยยย..ผุ้จัดการ

ได้ลงมาบอกว่า.....วันนี้ เรน ไม่มาทำงานครับ หยุด..เล่นของเล่น อยู่บ้าน..

55555555555555+++เอากะเธอซิ เด็กยักษ์จริง ๆ นะนั่น...
nana555
[ 27-09-2016 - 00:16:14 ]







เอาคำแปลของแฟนจีนมาฝากนะค่ะ อ่านแล้วซึ้งมาก ๆ ค่ะ



(สัญญา)ในชีวิตหน้าของฉัน ฉันจะไม่รักคุณ (แปลดิบ ๆ ก็ในชาติหน้าแหละ)



ในชีวิตหน้าของฉัน ฉันจะไม่เลือกที่จะรักคุณ
เพราะในชีวิตหน้าของฉัน ฉันจะไม่เป็นคลาว
ในชีวิตหน้าของฉัน ถ้าไม่มีคลาวก็จะไม่มีเรน
ในชีวิตหน้าของฉัน ฉันหวังให้มีเพียงแค่ชื่อ : ชองจีฮุน


ชองจีฮุนธรรมดาคนนึง ชองจีฮุนที่มีความสุขที่ไม่ใช่เรน
ในชีวิตนึงสำหรับการเป็นเรนก็เพียงพอแล้ว
ให้ความรักและความปรารถนาของฉันมอดไหม้ไปให้หมดในชีวิตนี้ ไม่ต้องเก็บรักษามันไว้ ให้มันหมดไป
ในชาติหน้า จะเป็นไปได้มั้ยที่จะมีแค่ ชองจีฮุน?
เป็นชองจีฮุนที่เป็นตัวของตัวเอง เป็นชองจีฮุนที่อยู่กับครอบครัวของเค้า
เป็นชองจีฮุนที่ได้อยู่กับเพื่อนฝูง เป็นชองจีฮุนที่ได้อยู่กับคนที่เค้ารัก
อย่าเป็นชองจีฮุนที่เป็นนักแสดงที่ห้อมล้อมไปด้วยแฟน ๆ ไม่ต้องมีบอดี้การ์ด ไม่ต้องมีนักข่าวเขียนข่าวแย่ๆ
ทำในสิ่งที่คุณอยากจะทำ รักคนที่คุณอยากจะรัก
ในฤดูใบไม้ผลิคุณจะใส่หูฟัง เดินอย่างช้า ๆ ที่มีตึกสูง ฟัง MP3 ของคุณ และคุณก็ไม่ใช่นักร้องที่ชื่อว่า เรน



ในฤดูร้อนคุณจะเดินเล่นกับแฟนของคุณ กินไอศกรีมกัน เช่าเรือ และดูหนังเรื่อง Notting Hill กับ Titanic กับแฟนของคุณ
ในฤดูใบไม้ร่วงไปคอนเสริต์กับครอบครัวของคุณ แต่คนที่ยืนอย่างสง่าบนนั้นไม่ใช่นักร้องที่ชื่อ เรน แต่เป็นคนอื่น
ในช่วงคริสต์มาส คุณจะเดินจับมือกับแฟนคุณในย่าน Myeongdong เมื่อไฟทุกที่ดับหมดแล้ว จูบเธอเบา ๆ และสัญญากับเธอว่าคุณจะรักเธอตลอดไป
แล้ววันนึงชื่อของคุณอาจจะไปปรากฏอยู่ในหนังสือแม๊กกาซีน : designer หนุ่มมากความสามารถ ? ชองจีฮุน



และชื่อของคุณอาจจะไปปรากฏอยู่ในอัลบัมของนักร้องคนอื่น ๆ ในฐานะของผู้อยู่เบื้องหลัง
อยู่ในรายชื่อของผู้ที่ต้องขอบคุณว่า ?ขอขอบคุณ ดีไซน์เนอร์ที่มีความสามารถ ? ชองจีฮุน?
มันจะเป็นไปได้มั้ย? ในชีวิตหน้าของคุณ เติมเต็มในสิ่งที่คุณเคยหวัง เป็นดีไซน์เนอร์ที่เก่งที่ไม่ใช่นักร้องชื่อ เรน


แบบนี้คุณจะได้ไม่ต้องทำงานนอนหลับแค่ 3 ชั่วโมง คุณสามารถกิน ? นอนหลับได้อย่างเป็นปกติ
แบบนี้คุณจะได้ไม่ต้องฝึกหนักจนปวดกล้ามเนื้อและกระดูก และปวดจนคุณไม่สามารถหลับได้ คุณจะได้ไม่ต้องบอกว่า ?ถึงแม้ว่าผมจะไม่สามารถลุกขึ้นมายืนได้อีกตอลดชีวิตของผม ก็ไม่เป็นไร?



แบบนี้ถึงแม้ว่าคุณจะแขนหัก คุณยังสามารถใส่ที่คล้องแขนแล้วนอนพักผ่อนบนเตียงของคุณได้
คุณจะได้ไม่ต้องทดเจ็บปวดเพื่อที่จะเติมเต็มคำสัญญาที่ให้ไว้กับแฟน ๆ
คุณเคยบอกว่าคุณต้องการจะเป็นเรนเป็นนักร้อง-นักแสดงที่ทำงานหนักที่สุด
และสิ่งที่คลาวจะทำเพื่อคุณได้คือรัก และ รักคุณมากขึ้น ๆ
เพราะว่าในชาติหน้าจะไม่มีเรนอีก เราจะให้ความรักทั้งหมดของเราในชาตินี้
ในชาตินี้ฉันจะรักคุณให้ลึกสุดใจ... ในชาตินี้ขอให้คลาวได้รักเรน
ในชาติหน้า ขอให้คุณเป็นแค่ ชองจีฮุน เป็นชองจีฮุนคนธรรมดา ๆ คนนึง
เป็นชองจีฮุนที่มีความสุข และเป็นชองจีฮุนในแบบที่เค้าเป็น
ในชาติหน้า ฉันจะไม่รักคุณอีกต่อไป
ในชาติหน้า ในโลกของฉัน จะไม่มีเรน

nana555
[ 27-09-2016 - 00:16:36 ]







เอาคำแปล Fan Account มาฝากค่ะ

ฉันเจอเค้าเมื่อคืนนี้ที่มาเลเซีย
ที่หน้าร้านเนื้อย่างเกาหลี ชื่อว่า โคตา ดามานซารา
ฉันยืนห่างจากเค้าแค่นิ้วเดียวเอง
ใกล้จนฉันเห็นหน้าเค้าชัดเจน
หน้าเค้าดูซีดมาก แล้วเค้าก็ดูเศร้า
เค้าเอาแต่ก้มหน้าตลอด
ฉันยืนอยู่ข้างๆ รถของเค้า ฉันก็เลยพูดออกไปว่า
เรน aja aja fighting
เค้าหันมามองฉันนึงนึง แล้วก็เหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ว่าบอดี้การ์ดเกาหลีก็ออกมาดันเค้าเข้ารถไป
ไม่รู้สิ แต่ฉันรู้สึกผิดหวังมากเลย

ฉันได้ยินเรื่องนี้มาจากคนคนนึง
ได้ยินว่าเค้าไม่ค่อยมีความสุขกับชีวิตตัวเองเท่าไร
ทุกอย่างที่เค้าทำมีคนคิดให้หมด
เค้าต้องทำตามทุกอย่างที่บริษัทตัดสินใจให้เค้าทำ
แม้กระทั่งต้องทำตามที่บอดี้การ์ดสั่ง
และเวลาที่บอดี้การ์ดบอกว่าให้เค้าใช้ทางออกที่ชั้นใต้ดินเวลาที่ไปดินเนอร์ ขณะที่มีแฟนๆ มากมายรอเค้าอยู่ที่ประตูหน้า เค้าก็ไม่อยากทำแบบนั้น แต่ก็จำต้องทำตาม
เค้าไม่สามารถออกไปไหนกับพวกแดนเซอร์ได้
และเค้าถูกทิ้งให้อยู่ตามลำดังคนเดียวในห้องชุดสุดหรูที่แสนกว้าง เค้าเกลียดมัน
แต่เค้าไม่มีทางเลือก นอกจากการติดแหง็กอยู่ในห้องนั้น

เค้าเกลียดเวลาที่บอดี้การ์ดสั่งให้เค้ารีบเดินเพื่อไม่ให้แฟนตาม
และเค้าก็เกลียดเวลาที่เค้าต้องหาทางหลบเลี่ยง เวลาที่แฟนๆ รออยู่หน้าลิฟต์ แต่พวกบอดี้การ์ดกลับขอให้เค้าเปลี่ยนไปลงบันไดเลื่อนแทน

ฉันรู้สึกสงสารเค้าจัง
เวลาคิดถึงเรื่องนี้ทีไร ฉันรู้สึกอย่างร้องไห้
ชีวิตของเค้าช่าง...

และตอนที่เราเห็นเค้าอยู่คนเดียวบนรถบีเอ็มวันนั้น
ระหว่างที่กำลังกลับจากร้านอาหาร ชื่อว่า Ampang
เค้าเปิดกระจกลงมา แล้วมองออกไปข้างนอก
เหมือนเด็กตัวเล็ก..
ฉันรู้สึกเศร้ามาก
เค้าดูเหงามาก
ไม่รู้สิ บางทีอาจจะเป็นเพราะหลายวันมานี่ตัวฉันเองกำลังอยู่ในช่วงอารมณ์อ่อนไหวมั๊ง
แต่ จริงๆ นะ จีฮุนที่เราเห็นบนเวที ช่างแตกต่างกับ จีฮุนที่แท้จริง
เค้าไม่ได้มีความสุขเหมือนกับที่เราเห็น
และเค้าก็ยังอุตส่าห์ยิ้มเสมอเวลาอยู่หน้าแฟนๆ อย่างพวกเรา เพื่อให้พวกเรารู้สึกดี
แล้วเค้าล่ะมีใครที่คอยให้กำลังใจเวลาที่เค้ารู้สึกเศร้า




Eng To Thai:tzarina

credit:tzarina@Bi"s Kingdom
nana555
[ 27-09-2016 - 00:19:38 ]







ไม่ว่าจะพูดอะไร คิดอะไร ผู้ชายคนนี้ สุดยอดดดด..

Rain To Cloud (At 2007 Rain fan meet)








To me, the word brings me warmth and happiness to my heart.
(ประโยคที่ 2 เบลอ)
I am a happy person.
There were times when it was so hard and difficult.
Too much pressure and I found myself trying to run away from where I was.
But Cloud was always there I turn a little bit, and Cloud would be there cheering
me on to continue my passage.
So I gathered my strength and got up to where I am now.

Someone said, Fame is like bubbles.
However, I know that the truth is a common denominator for all people.
And Cloud understands what I feel and what I want to say.

I will probably fall again.
However, when you reach out and offer a helping hand. I will gladly rise up for you.
The reason why I rise up is I want to look into everyone's eyes and say I am a proud member of the Cloud.
I apologize for not being there for the Cloud.
And I am sorry that I did not treat you better.

To the Cloud
Cloud
I say this again even though I know that saying it everyday won't be enough.
I am so proud of the Cloud. And thank you.
And also I love you.

credit : Melinda1974@baidu / ฟองอากาศ@OnlyRain_Pantip.TH




......................................................................


จาก Rain สู่ Cloud ( ในงานพบปะแฟน ๆ ของเรนในปี 2007)


สำหรับผมแล้ว ถ้อยคำนี้ได้นำความอบอุ่นและความสุขมาสู่หัวใจของผม
...................................
ผมเป็นคนที่มีความสุขมาก ๆ
อาจจะมีช่วงเวลาที่ยากและลำบากเหลือเกินสำหรับผม
ความกดดันที่เกิดขึ้นมากมายจนทำให้ผมอยากจะวิ่งหนีหายไปจากจุดที่ ๆ ผมยืนอยู่
แต่ Cloud ยังคงอยู่ตรงนั้นเสมอ ยามเมื่อผมหันกลับไปมองแม้เพียงเล็กน้อย
Cloud ก็ยังอยู่ที่นั่นเพื่อเป็นกำลังใจให้ผมได้ก้าวเดินผ่านความยากลำบากนั้นไป
เพราะเหตุนี้ ผมจึงสามารถรวบรวมความเข้มแข็งขึ้นมาได้จนเดินมาถึงจุดที่ผมเป็นอยู่อย่างเช่นทุกวันนี้

มีบางคนบอกว่า ความมีชื่อเสียงเปรียบเหมือนดั่งเช่นฟองสบู่
อย่างไรก็ตาม ผมรู้ว่าความจริงสิ่งนี้เป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ทุกผู้ทุกนาม
และCloud ก็เข้าใจดีว่าผมรู้สึกเช่นไรและผมต้องการบอกอะไร

ถึงผมจะล้มลงอีกครั้ง
เมื่อใดก็ตามที่พวกคุณเข้ามาถึงตัวผมและยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือ
ผมก็ยินดีอย่างยิ่งที่จะลุกขึ้นสู้เพื่อพวกคุณ
เหตุผลที่ผมต้องลุกขึ้นนี้ก็เพราะผมต้องการที่จะมองเข้าไปในดวงตาของทุก ๆ คน
และพูดได้ว่าผมเป็นสมาชิกที่น่าภาคภูมิใจของ Cloud
ผมต้องขอโทษที่ผมอาจไม่ได้อยู่กับ Cloud ตลอดเวลา
และผมก็ต้องขอโทษที่ผมอาจจะไม่ได้ปฏิบัติต่อพวกคุณได้ดีไปกว่านี้

ถึงชาว Cloud
Cloud ที่รัก
ผมอยากจะพูดแบบนี้อีกครั้งหนึ่งแม้ผมจะรู้ว่า ต่อให้ผมจะพูดอย่างนี้ทุกวัน มันก็ไม่มีวันเพียงพอ
ผมภาคภูมิใจใน Cloud ของผม ขอบคุณเหลือเกิน
และผมก็รักพวกคุณ

แอบซึ้งอีกรอบค่ะ


Eng To Thai:เพใหม่ซก(MIKI)@OnlyRain_Pantip.TH
credit:เพใหม่ซก(MIKI)@OnlyRain_Pantip.TH
ต้องสมัครเป็นสมาชิกและ login เข้าสู่ระบบก่อนถึงจะสามารถลงความเห็นได้

เว็บนี้มีการใช้งาน cookie
ยอมรับ
ไม่ยอมรับ