Take A Break กับ นิชคุณ หรเวชกุล
SOURCE: Post Today
รายงานโดย :มัลลิกา นามสง่า:
“น่ารักขนาดนี้ มาจากดาวดวงไหน?” เห็นหน้าตา “นิชคุณ หรเวชกุล” ก็คงไม่น่าสงสัยว่า ทำไมแฟนๆ ชาวเกาหลีถึงได้ให้นิยามคำนี้ไว้แก่เขา...
นับ ตั้งแต่เข้าเป็นหนึ่งในสมาชิกบอยแบนด์วง “2PM” ภายใต้สังกัด JYP Entertainment เมื่อเดือนก.ย. ในปีที่ผ่านมา ชื่อเสียงของ “นิชคุณ หรเวชกุล” ก็ดูเหมือนจะฉุดไว้ไม่อยู่เสียแล้ว ด้วยหน้าตาที่หล่อเหลาผสมกับบุคลิกที่ทรงเสน่ห์ ได้สร้างความคลั่งไคล้ให้กับบรรดาแฟนคลับที่ประเทศเกาหลี ไม่นับในประเทศไทยที่พร้อมจะสนับสนุนนิชคุณตั้งแต่ก่อนเป็น 2PM เสียอีก
ชื่อ เสียงของนิชคุณไม่ได้จำกัดอยู่ในวงแคบเพียงแค่แฟนคลับของกลุ่มบอยแบนด์เท่า นั้น หากแต่ยังขจรขจายไปสู่คนทั่วไปในเกาหลีอีกด้วย เพราะนอกจากเป็นนักร้อง เขายังได้รับคัดเลือกให้เป็นโฮสต์ในรายการทอล์กโชว์ชื่อดัง อย่างรายการ “ยาชิมมันมัน” รวมทั้งการได้รับเชิญให้ไปออกรายการระดับท็อปของเกาหลีอย่างไม่ขาดสาย
ที่ ดูเหมือนจะเป็นแรงผลักสำคัญที่ทำให้นิชคุณเปล่งประกายและศักยภาพในตัวของเขา สม่ำเสมอ ก็คือรายการ Star King ทางสถานีโทรทัศน์ SBS ซึ่งออกอากาศทุกวันเสาร์ในช่วงไพรม์ไทม์ของเกาหลี พูดได้เต็มปากว่า ตอนนี้นิชคุณกลายสภาพจากเด็กหนุ่มหน้าตาดีธรรมดาๆ กลายเป็นเจ้าชายน้อยแห่งวงการบันเทิงเกาหลีไปเสียแล้ว
พลังนิชคุณ รุกตลาดท่องเที่ยวเกาหลี การได้ก้าวไปมีชื่อเสียงที่ประเทศเกาหลีในฐานะที่เป็นศิลปินไทยคนแรก อาจนับได้ว่าเป็นการสร้างประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งให้กับอุตสาหกรรมบันเทิง ไทยเกาหลีก็ว่าได้ และด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เลือกหนุ่มน้อยวัย 21 ปีคนนี้มาเป็นพรีเซนเตอร์ในแคมเปญใหม่เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย ภายใต้ชื่อโครงการ “Come To Thailand, Let’s Take A Break” เพื่อรุกตลาดการท่องเที่ยวของเกาหลีใต้และประเทศใกล้เคียงในแถบเอเชีย
พร้อมกันนี้ ททท. ได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาเนื้อหาเกี่ยวกับนิชคุณที่กำลังสนุกกับกิจกรรมต่างๆ ในเมืองไทย เช่น ตีกอล์ฟ มวยไทย เทศกาลประเพณีต่างๆเพื่อสื่อให้เห็นว่าเมืองไทยมีธรรมชาติที่สวยงาม สถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมที่หลากหลายสำหรับนักท่องเที่ยว รวมทั้งศิลปวัฒนธรรมต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีการจัดทำเว็บไซต์ Post Todaywww.nichkhunbreak.com
เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการ รวมถึงเผยแพร่ข้อมูลผ่านทางชุมชนออนไลน์ต่างๆ มีการจัดทำคู่มือแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเมืองไทยใน 5 หัวข้อ ได้แก่ Let’s Play, Let’s Have Fun, Let’s Relax, Let’s Taste และ Let’s Go Shopping เพื่อแจกจ่ายให้กลุ่มเป้าหมาย พร้อมกิจกรรม “ตามรอยนิชคุณที่ภูเก็ต” โดยมีนิชคุณเป็นไกด์นำแฟนคลับเกาหลีเที่ยวด้วยตัวเอง ในเดือนต.ค.นี้
นิชคุณ เปิดเผยว่า ดีใจมากที่ททท. เลือกเขามาเป็นพรีเซนเตอร์ “ผู้จัดการ คุณ (ชื่อเล่น) เล่าให้ฟังว่าพรีเซนเตอร์คนก่อนหน้านี้คือพี่เบิร์ด (ธงไชย แมคอินไตย์) ผมก็โอ! ขนาดนั้นเลยเหรอ ดีใจมาก รู้สึกประทับใจและภูมิใจมากที่มีโอกาสได้เผยแพร่วัฒนธรรมไทย มีโอกาสที่จะได้ทำให้ภาพลักษณ์เมืองไทยสวยงามขึ้นมา”
ก่อนหน้านิชคุณจะมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้ททท. ก็ได้ทำหน้าที่นี้ในฐานะคนไทยคนหนึ่งอยู่แล้ว “ก็เล่าเรื่องของเมืองไทยให้เพื่อนๆ ฟังอยู่เรื่อยๆ ครับ มีโอกาสออกรายการไหน คุณก็พูดภาษาไทย และพยายามจะบอกเขาว่าเมืองไทยดีขนาดไหน อาหารไทยอร่อยนะ ซึ่งคุณได้มีโอกาสตรงนี้ก็ดีเลย คุณได้เป็นพรีเซนเตอร์ได้ไปพูดตรงนั้น เหมือนเป็นการทำงานไปในตัวด้วย ส่วนกิจกรรมโปรโมตจริงๆ ตอนนี้แล้วก็คงเป็นทะเลอย่าง จ.ภูเก็ต กระบี่”
การที่นิชคุณได้รับตำแหน่งพรีเซนเตอร์ท่องเที่ยวของไทย ในความคิดเห็นของแต่ละคนอาจจะมองว่าสลักสำคัญต่างกันไป แต่สำหรับเพื่อนๆ 2PM ต่างรู้สึกตื่นเต้นกับงานโฆษณาชิ้นนี้ของนิชคุณมาก “เพื่อนๆ เขาก็ตื่นเต้นกันมาก พยายามจะถามว่าถ้าเทียบกับเกาหลีแล้วเป็นยังไง ก็ เหมือนเรนที่ได้มาเป็นพรีเซนเตอร์ Korea Sparkling ของเกาหลี รึเปล่า เราก็บอกใช่ เขาก็โอว ขนาดนั้นเลยเหรอ ก็ตื่นเต้นกัน (หัวเราะ)”
“ผมเป็นคนไทย” นิชคุณ เกิดที่รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา และย้ายกลับมาใช้ชีวิตที่ประเทศไทยเมื่อตอนอายุ 2 ขวบ จนกระทั่งจบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ไปเรียนที่นิวซีแลนด์ 1 ปี และกลับไปเรียนมัธยมปลายที่โรงเรียนมัธยม Los Osos ที่แคลิฟอร์เนีย
ต้น สังกัดเจวายพีได้ค้นพบเขาที่งานเทศกาลดนตรีเกาหลี และได้มีการออดิชันขึ้นที่นั่น เด็กหนุ่มที่หน้าตาดี แต่ไม่ประสีประสาเรื่องการร้องและการเต้น กลับได้รับการคัดเลือกให้เข้าเป็นศิลปินฝึกหัด
นิชคุณ กล่าวว่า เพราะผู้คัดสรรศิลปินของต้นสังกัดบอกว่า “เพราะฉันเห็นอะไรในตัวคุณ” จากการฝึกฝนทั้งการร้องและเต้นอยู่นานกว่า 2 ปีครึ่ง ในที่สุดเขาก็เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงที่เกาหลีอย่างเต็มตัวเมื่อปีที่แล้ว และก็กลายมาเป็นไอดอลไทยหนึ่งเดียวที่ได้รับการยอมรับในเกาหลี
นิชคุณ หรือที่คนเกาหลีเรียกว่า “นิกคุน” อธิบายถึงเส้นทางของความโด่งดังของเขาว่า ก่อนที่จะได้เข้ามารวมเป็น 2PM นั้น มีรายการที่ทำงานคนเดียวมาแล้ว “รายการ ‘ยาชิมมันมัน’ แต่ว่า 2PM มีส่วนช่วยคุณอย่างมากเลย ไม่ใช่แค่ในการแสดงแต่จะเป็นเรื่องการใช้ชีวิต ความเป็นอยู่ในเกาหลี เขาก็จะช่วยสอนว่า ต้องทำอย่างนี้ๆ นะ ช่วยสอนภาษาด้วยครับ ซึ่งความสามารถก็เป็นส่วนสำคัญด้วย แต่ถ้าไม่มี 2PM คุณก็คงมาไม่ได้ถึงขนาดนี้”
วงการบันเทิงเกาหลีได้ขึ้นชื่อว่ามีการแข่งขันสูงและคนเกาหลีก็มีความ เป็นชาตินิยมสูงมาก การที่นิชคุณสามารถฝ่ากำแพงและก้าวข้ามมาสู่การเป็นคนดังจึงไม่ใช่เรื่องที่ ได้มาง่ายๆ “อุปสรรคในการทำงานที่เกาหลีก็คงเป็นความกดดันครับ ความกดดันจากคนรอบข้าง ความกดดันจากแฟน คือมันเยอะมากจนบางคนอาจจะเสียศูนย์ไปเลยก็ได้ แต่คุณก็มีวิธีรับมือด้วยการที่คิดถึงพ่อแม่ครับ คิดถึงแฟนๆ จะมีแฟนที่เมืองไทยที่พูดว่า คุณสู้ๆ นะ ฝากความหวังไว้กับคุณนะ ก็คิดถึงคำพูดเหล่านั้นแล้วก็คิดถึงพ่อแม่ที่คอยสนับสนุนเราอยู่ตลอดเวลา มันทำให้คุณมีพลังขึ้น”
สิ่ง ที่ทำให้นิชคุณชนะใจคนเกาหลีได้ นอกจากหน้าตาที่ดูดีโดยธรรมชาติให้มาแล้ว เรื่องความนอบน้อมและความมีน้ำใจตามแบบฉบับคนไทยก็ทำให้ซื้อใจคนเกาหลีได้ “อย่างธรรมเนียมของคนไทยก็จะมีการนอบน้อมต่อผู้ใหญ่ น่าจะเป็นจุดนั้นมากกว่าที่คนมาเห็นคุณแล้ว ก็รู้สึกว่าทำงานด้วยแล้วรู้สึกสบายใจ
แล้วก็ความพยายามเต็มที่ที่จะเรียนรู้เรื่องภาษา เรื่องอะไรต่างๆ ที่จะพัฒนาศักยภาพด้วยครับ การที่มีแฟนๆ หลายรุ่น โดยเฉพาะแฟนที่เป็นผู้ใหญ่ แล้วเขามองเห็นด้วยสายตารักใคร่ เป็นคนที่สูงอายุขึ้นมานิดหนึ่ง ไม่ใช่เด็กๆ เพราะเด็กๆ ก็กรี๊ดกร๊าดตามประสาวัยรุ่น พอมีคนที่โตขึ้นมาหน่อย แล้วชอบคุณ คุณก็จะรู้สึกว่าเออ เราก็มีคนชื่นชมอยู่นะ ซึ่งเมืองไทยก็มี และเกาหลีก็มี”
การเป็นซูเปอร์สตาร์ข้ามชาติ ทำให้มีแฟนคลับของไทย เกาหลี และจีน ถกเถียงกันว่า จริงๆ แล้ว นิชคุณเป็นคนชาติไหนกันแน่ “คุณก็ไม่อยากให้ทะเลาะหรือเถียงกัน พอไปอยู่เกาหลีแล้วคุณก็พยายามจะปรับตัวให้เข้ากับเขา จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องการสื่อสาร และอื่นๆ จริงๆ แล้วคุณเป็นคนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ”
เมื่อถามอนาคตของการทำงานในเส้นทางสายนี้ นิชคุณ กล่าวว่า เขามีความสนใจเรื่องการแสดงด้วย และคิดว่าเมื่อทำงานในวงการจนอิ่มตัวและคิดที่จะมีครอบครัว ตอนนั้นอาจจะออกจากวงการบันเทิงไปทำธุรกิจส่วนตัวก็ได้ “เรื่องแต่งงานที่คุณให้ความสำคัญเพราะคุณคิดว่าครอบครัวเป็นสิ่งที่สำคัญ ที่สุดครับ คือถ้าพร้อมจะแต่งงานเมื่อไหร่ก็อาจจะหยุดงานบันเทิงไว้ เพราะอยากให้ครอบครัวคุณมีความเป็นส่วนตัว แต่เรื่องผู้หญิงตอนนี้ไม่มีครับ อย่างที่คุณบอกเวลาไปทำงานก็จะเจอเยอะ ได้ไปเจอดาราคนโน้นคนนี้ แต่คุณก็ไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับเขา ไม่เคยมีการแลกเบอร์กันเลยกับดาราคนอื่น มันก็ไม่เชิงเป็นกฎของบริษัทว่าห้ามมีแฟน แต่ตอนนี้เรื่องงานคงต้องมาก่อนครับ”
เด็กหนุ่มที่ก้าวข้ามจากความเป็นไอดอลมาสู่การทำหน้าที่เสมือนเป็นทูต วัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของไทย ปิดท้ายว่า ถ้ากลับไปเกาหลีอีกครั้ง ในฐานะเป็นพรีเซนเตอร์ททท. คุณก็คงจะพูดเหมือนเดิมว่าเมืองไทยสวยงาม อาหารอร่อย “คนเกาหลีที่มาเมืองไทยก็จะรู้สึกได้ว่าคนไทยใจดี คนไทยจะยิ้มตลอดเวลา จะค่อนข้างดูแลเขาดี คนต่างชาติที่มาก็จะประทับใจคนนั้น คุณไม่ต้องพูดอะไรมาก เพราะถ้าเขามาเขาก็จะรู้ว่าเมืองไทยเป็นยังไง”
“นิชคุณ หรเวชกุล” จะนำภาพลักษณ์และชื่อเสียงของเขามาช่วยผลักดันการท่องเที่ยวไทยให้ดีขึ้นใน สภาวะเช่นนี้ได้แค่ไหน เป็นเรื่องที่คนไทยต้องเอาใจช่วยให้ทั้งการท่องเที่ยวไทยและการทำงานของนิ ชคุณเป็นไปด้วยดี
สมกับความลึกซึ้งในชื่อ “นิชคุณ” ที่มีหมายความว่า “มีความดีเป็นที่พึ่งแห่งตน”
credit:2pm-online.com