"การอยู่ด้วยกันเราต้องมีความเข้าใจเป็นหลัก อย่างวงเราเองมีความเห็นในเรื่องดนตรีที่ต่างกันแต่มันทำให้เราเหนียวแน่นขึ้น เราผูกพันกัน เรามีเพลงเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวเหมือนกัน ผมเชื่อว่าอีก 10 ปีเราก็ยังเป็นบอดี้สแลมวงเดิมแน่นอน"
ชั่วโมงนี้หากจะกล่าวว่าคงมีเหล่าขาโจ๋น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักบทเพลง "ยาพิษ" ซิงเกิลเปิดตัวของสี่หนุ่มร็อค "บอดี้สแลม" ก็คงจะไม่เกินไปนัก เพราะผลงานของสี่หนุ่มร็อกฝีมือเชื่อขนมกินได้วงนี้ ถือเป็นสุดยอดวงประจำพ.ศ.นี้ไปเรียบร้อยแล้ว
เพราะเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น "ยาพิษ" ยังทะยานขึ้นสู่อันดับ 1 ประจำคลื่นฮิตๆ ได้พร้อมเพรียงอีกหน ทั้ง 91.5 ฮอตเวฟ, 94 อีเอฟเอ็ม หรือจะเป็นคลื่น 95.5 เวอร์จิ้น ฮิตซ์ แถมในแต่ละคลื่นก็ยังเกาะติดอันดับแรกชนิดดึงยังไงก็ไม่ออก อย่างในคลื่นฮอตเวฟก็ครองแชมป์มา 9 อาทิตย์ติดต่อกัน, ชาร์ตอีเอฟเอ็มแชมป์ 5 อาทิตย์ และชาร์ตเวอร์จิ้น ฮิตซ์ แชมป์ 2 อาทิตย์ นี่ยังไม่นับรวมชาร์ตซี้ด 97.5 ที่เพลงดังกล่าวเคยยึดตำแหน่งจ่าฝูงถึง 3 อาทิตย์มาแล้วเช่นกัน
ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีด้วยที่เพลง "ยาพิษ" กำลังเกาะติดอันดับ 1 ในหลายคลื่นเวลานี้ รู้สึกแปลกใจบ้างไหม
ตูน : ขอบคุณครับ (ยิ้ม) ผมรู้สึกขอบคุณแฟนเพลงจริงๆ ที่ยังชื่นชอบผลงานเพลงของพวกเราเหมือนเดิม ต้องยอมรับครับว่ามันก็เกินความคาดหมายเหมือนกันที่เพลงจะได้รับการจัดอันดับติดอันดับ 1 ยาวนานขนาดนี้ ต้องขอบคุณทุกแรงใจครับ
ทำไมต้องเป็น Save My Life (เซฟ มาย ไลฟ์) ช่วยอธิบายให้แฟนๆ ฟังสักหน่อย
ตูน : สำหรับผลงานอัลบั้มชุดนี้เป็นอัลบั้มชุดที่ 4 ของพวกเรา บอดี้ สแลม ครับ ซึ่งชื่ออัลบั้มทีแรกที่เราคิดเอาไว้เป็น Music Save My Life (มิวสิก เซฟ มาย ไลฟ์) แต่แล้วพวกเราก็มาคิดกันอีกทีว่า มันจะเป็นการจำกัดความหมายจนเกินไป จึงเกิดไอเดียว่าอยากให้แฟนเพลงได้แจมกับแนวคิดของพวกเราด้วย อย่าง พวกเราเองตัดคำว่ามิวสิกออกไป แต่ความหมายโดยรวมก็ยังเป็นมุมมองในเรื่องของการให้ ซึ่งมันทำให้เกิดช่องว่างก่อนคำว่า เซฟ มาย ไลฟ์ อย่างเราก็มิวสิก (บทเพลงทำให้พวกเรามีชีวิตชีวามันทำให้พวกเราสามารถก้าวเดินต่อไปในอนาคตข้างหน้า) แล้วอย่างเพื่อนๆ ล่ะ จะใช้คำอะไรเติมลงไปก็ได้ แล้วแต่ความชอบครับ เพราะเราอยากให้อัลบั้มนี้เป็นของทุกคน
แนวเพลงหลักๆ ในอัลบั้มนี้เป็นแนวเพลงอะไร
ตูน : สำหรับอัลบั้มนี้แนวเพลงก็ยังเป็นในลักษณะป็อป ร็อก, โมเดิร์น ร็อก ที่เราอยากใส่อะไรก็ใส่ อย่างบางเพลงก็จะมีกลิ่นดิสโก มีกลิ่นอาร์แอนด์บี มีโซลเข้ามาเพิ่มสีสัน คือจุดหลักๆ ที่เราใส่ลงไปคืออยากเพิ่มเติมความหลากหลายให้มันมีมากขึ้น หาแรงจูงใจใหม่ๆ มาใส่ในเพลง
ในส่วนของวัตถุดิบ ส่วนมากได้มาจากไหนกัน
ปิ๊ด : วัตถุดิบเพลงที่ได้นั้นส่วนใหญ่มาจากเรื่องใกล้ตัว รวมทั้งเรื่องราวระหว่างที่เราได้ทัวร์คอนเสิร์ตกว่า 200 คอนเสิร์ตทั่วประเทศ แต่ที่มาหลักๆ ก็จะมาจากทีมแมงโก้ครับ ที่มีส่วนร่วมกับการแต่งเพลงดีๆ ถูกใจแฟนๆ มาโดยตลอด และก็มีเรื่องราวจากตูนเองด้วย
รู้มาว่า "ยาพิษ" ถือเป็นเพลงมาตรฐานของอัลบั้มชุดนี้
ตูน : ครับ คือจะบอกว่าการทำงานเพลงของ บอดี้ สแลม นั้นเราจะทำกันด้วยความตั้งใจ ไม่รีบร้อน อย่างเพลงยาพิษ เราก็ใช้วิธีการเอาไอเดียมาร่วมแชร์กันในห้องซ้อมค่อยๆ ปรุงแต่งกันไป โดยมี "พี่อ๊อฟ-บิ๊กแอส" เป็นคนดูแลอยู่เบื้องหลัง พอได้เป็นเพลงยาพิษปุ๊บเพลงต่อๆ ไปในอัลบั้มก็จะค่อยๆ เดินไปตามแนวทางของยาพิษจนครบทั้ง 10 เพลงครับ
กลัวมั้ยกับความคาดหวัง เพราะชุดก่อนหน้า บอดี้ สแลม เองค่อนข้างที่จะมาแรง และปึ้กมาก
ตูน : ยอมรับเหมือนกันว่ากดดันบ้าง เพราะของแบบนี้มันต้องมีการนำเอาของเก่า และของใหม่มาเปรียบเทียบกันอยู่แล้ว หลีกเลี่ยงไม่ได้หรอก แต่มันไม่ถึงกับทำให้ลำบากใจอะไรมากมายครับ เพราะพวกเรายึดหลักว่าตั้งใจทำผลงานให้ดีที่สุด เมื่อมันที่สุดแล้วเราก็ต้องยอมรับกับผลที่เกิดขึ้น และเรามั่นใจครับว่าความตั้งใจของพวกเรามันจะทำให้ได้ผลที่ดีกลับคืนมาเอง และที่สำคัญคือเพลงที่ออกมานั้นถ้าไม่ดีพวกเราไม่ปล่อยออกมาแน่นอน แต่จะดังเปรี้ยงหรือเปล่านั้นมันขึ้นอยู่กับความชอบของแฟนๆ มันคือกำไรครับหากจะดัง
แสดงว่ากับอัลบั้มนี้ทาง บอดี้ สแลม ไม่ได้คาดหวังเอาไว้สูงเท่าไหร่
ตูน : อย่างที่บอกไปแหละครับว่าพวกเราจะคำนึงถึงผลงานที่ออกมาก่อนเป็นอันดับแรก ตั้งใจทำให้มันออกมาในแบบที่พวกเราชอบ มีคุณภาพนั่นก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้ามันจะดังได้ก็เพราะว่าแฟนๆ ชอบมัน อันนี้ถือเป็นกำไรที่ได้รับกลับมามากกว่าครับ
คาดหวังกับเรื่องรอบคอนเสิร์ตหรือเปล่า
ตูน : สำหรับคอนเสิร์ตที่จะจัดขึ้นในวันที่ 20 ตุลาคมนี้จริงๆ ไม่ใช่คอนเสิร์ตใหญ่ของพวกเรานะครับ ถือเป็นเพียงคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้มมากกว่า คือเราอยากเจอแฟนๆ อยากมาสนุกด้วยกัน ชวนกันมาร้องเพลงใหม่ มาเต้นสนุกๆ กันในเพลงใหม่ คือเราเน้นเพลงใหม่เป็นหลัก แต่ก็จะมีเพลงเก่าให้ได้ฟังด้วย
แสดงว่าแฟนๆ จะได้มีโอกาสมันส์กับคอนเสิร์ตใหญ่อีกหน
ตูน : ก็น่าจะเป็นอย่างนั้นครับ แต่คงจะเป็นอีกช่วงหนึ่ง ซึ่งเราต้องดูสถานที่ และปรึกษากับทางทีมงานอีกที แต่น่าจะมีลุ้นครับ
ทำงานหนักกันขนาดนี้ มีทรุดกันบ้างมั้ยเนี่ย
ตูน : ใช่ครับ อย่างผมเองเพิ่งจะออกจากโรงพยาบาลมา เพราะเป็นเส้นเสียงอักเสบด้วย คุณหมอก็สั่งเหมือนกันว่าให้พักผ่อนมากๆ เพราะหากเรื้อรังบ่อยๆ อาจต้องผ่าตัดได้ ซึ่งผมก็กลัวๆ เหมือนกัน บางครั้งเวลาร้องเพลงจึงต้องยั้งๆ เสียงไว้บ้าง ส่วนเรื่องยาก็พยายามกินเหมือนกัน และพยายามหาเวลาว่างเพื่อพักผ่อนครับ
หลายๆ วงส่วนใหญ่โด่งดังได้พอประมาณก็มีอันต้องแยกจากกัน บอดี้สแลม คิดเห็นอย่างไรบ้าง
ตูน : การอยู่ด้วยกันได้เราต้องมีความเข้าใจกันเป็นหลัก อย่างวงเราเองมีความเห็นในเรื่องดนตรีที่ต่างกันแต่มันทำให้เราเหนียวแน่นขึ้น เราผูกพันกัน เรามีเพลงเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวเหมือนกัน และเราอยากจะก้าวเดินไปพร้อมๆ กัน และผมเชื่อว่าอีก 10 ปีเราก็ยังเป็น บอดี้ สแลม วงเดิมแน่นอน
คิดว่า บอดี้สแลม ประทับใจอะไรมากที่สุด หลังได้ไปทัวร์คอนเสิร์ตมาทั่วประเทศ
ตูน : ที่ผมประทับใจที่สุด คงเป็นเรื่องของกำลังใจจากแฟนเพลงที่มากรี๊ดดด...มาเชียร์ อย่างบางครั้งสถานที่ที่เราไปเล่นคอนเสิร์ตนั้นค่อนข้างใกล้กัน หรือเป็นสถานที่เดิมๆ แต่ทุกครั้งแฟนๆ ก็จะไปยืนเชียร์กันหนาแน่น และกรี๊ดด...กันสนั่นหวั่นไหวตลอด พวกเราต้องขอบคุณจริงๆ ครับกับแรงใจที่มีให้กันเสมอมา
ฝากอะไรถึงแฟนเพลงหน่อยไหม
ตูน : ขอบคุณครับสำหรับทุกคนที่อยากรู้เรื่องของเรา คอยติดตามงานของเรา ขอขอบคุณสื่อที่ทำให้ข้อมูลถึงแฟนๆ พวกเราก็หวังว่าผลงานเพลงในอัลบั้มชุดนี้จะเป็นที่ชื่นชอบ และมีความสุขกันนะครับ