Rainy FC.board !!!พลพรรคคนรัก"เรน"ทางนี้เลยจ้า บอร์ดนี้เป็นที่ที่เราจะอัพทุกอย่างที่เป็นเรน...

เมื่อไรเรนจามีแฟนเปงตัวเปงตนสักทีจาได้ไม่มีข่าวว่าเรนไม่เปงเกย์

เมื้อไรเรนจามีแฟนเปงตัวเปงตนสักทีจาได้ไม่มีข่าวว่าเรนเปงเกย์(เมื่อกี้พิมผิดค่ะกระทู้เมื่อกี้อ่ะค่ะ)

เรนจ๋ามีแฟนเร็วนะถ้าเปง(เฮเคียว)ก็ดีมากๆๆๆๆๆๆ

ถ่ายแบบกาบเคียวค่า

วันนี้เอาเคียวกาบเรนล่ะกานนะ

เหมาะสมกานจริงนะคู่นี้อ่า

น่ารัก

ภาพน่ารักค่ะเลยเอามาลง...ย

ก้อมีการัสมของพ่อเรนมาฝากค่ะเพื่อทุกคนจะได้รักเรนมากและไม่ทำร้ายเขาค่ะ


สัมภาษณ์พิเศษคุณพ่อของเรน




นักร้องพี ผู้ได้รับรางวัล Artiste of the Year เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2004 จากงาน the 2004 KBS Music Award ceremony กล่าว "ขอบคุณผู้ที่คอยช่วยเหลือผม เติมเต็มคำสัญญาของผมที่ได้ให้ไว้กับคุณแม่ซึ่งตอนอยู่บนสวรรค์"


น้ำตาที่ล้นเอ่อลงมาบนแก้มของเค้า ขณะที่กำลังกล่าวอยู่นั้น


3 ปีก่อน พีได้สัญญาไว้กับแม่ของเค้าซึ่งกำลังใกล้สิ้นลมอยู่บนเตียง "จะประสบความสำเร็จ" มันไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าเค้ารู้สึกอย่างไร เมื่อเค้าได้รับรางวัล คำสัญญาของพีที่ได้ให้ไว้กับแม่และความตื่นเต้นของเค้า ซึ่งกำลังเป็น นักร้องยอดเยี่ยม น้ำตาของเค้าที่ไหลเพื่อแม่ ผู้ที่ไม่อาจมาเห็นความสำเร็จของเค้าได้และความเจ็บปวดจากการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักคนนึง

คุณแม่ของพี เป็นห่วงพีจนวินาทีสุดท้ายของท่าน ในปี 2004 เมื่อคนมากมายตกหลุมรักในตัวลูกชายของท่าจากซี่รี่ "Full House" ซึ่งทำให้พีได้รับรางวัลถึง 3 รางวัลในฐานนะนักแสดงจาก the KBS actors" category ความสามารถทางการแสดงของพีซึ่งแสดงเค้าสามารถทำได้อย่างดีเยี่ยม

the KBS Music Award ในฐานะศิลปินเมือ 3 ปี ที่แล้ว เค้าเคยได้รับรางวัลเกียรติยศสุงสุด คือ "Artiste of the Year Award"


แต่รางวัลของเค้าที่ฉลองด้วยน้ำตา ไม่สามารถหยุดน้ำตาของเค้าได้ ความเร็จของเค้าที่กลับมาอีกครั้งนึง กับ "It"s Raining" ซึ่งประสบความสำเร็จสูงสุด ณ เวลานั้น

จากภายนอก เค้าดูเหมือนลูกชายของคนรวย ทั้งรูปร่างที่ดีและการเต้นที่ยอดเยี่ยม เค้ามีครองใจแฟนๆ ตั้งแต่ 10 - 60 ปี แต่ว่าอะไรละคือเส้นทางที่เค้ามา เค้ามาจากที่ไหนล่ะ?

หลังจากได้รับรางวัล เราไปที่บ้านของพีที่โซล มาปู เมื่อเราไปถึงคุณพ่อของชองอยู่ที่บ้าน "ผมไม่คิดว่าลูกชายของผมจะยินดี ผมไม่ได้ทำอะไรเพื่อเค้า" คุณพ่อของชอง ปฎิเสธการสัมภาษณ์ของเราอย่างสุภาพในตอนแรก อย่างไรก็ตามหลังจากการโน้มน้าวของพวกเรา สุดท้ายคุณพ่อของชองก็ยอมและเริ่มการพูดคุยเกี่ยวกับเส้นทางของคุณพ่อและลูกชายจนมาสู่ความสำเร็จ

"เมื่อผมได้เห็นลูกชายรับรางวัลในทีวี ผมก็ร้องไห้ไปด้วย มีบาดแผลอันยิ่งใหญ่ในหัวใจของผม ผมรู้ทำไมเค้าถึงได้ร้องไห้ออกมา สุดท้ายเมื่อเค้ากลับมาที่บ้านพร้อมกับถือรางวัล ดึกมากในคืนนั้น ผมกอดเค้าเป็นเวลานาน ถ่ายทอดความรู้สึกของผมสู่เค้า"

แม่ของพีได้รับความทรมานจากโรคเบาหวานเป็นเวลานาน เมื่อคุณพ่อชองธุรกิจล้มเหลว อาการของเธอก็ยิ่งแย่ลง เวลานั้นพีเพิ่งเป็นเด็กใหม่ภายใต้การฝึกของ JYP เมื่อเค้ามาเยี่ยมบ้านพี ได้รู้ถึงอาการของคุณแม่ของพีได้ส่งเธอไปยัง โรงพยาบาล Seoul University แล้วบอกว่า "ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องเงินนะ" แต่เมื่อแม่ของพียืนยันว่าจะออกจากโรงพยาบาล พร้อมบอกว่าหล่อนไม่ต้องการเพิ่มความกดดันให้ลูกชายของเธอ แลวเธอก็จากไปใน เดือนธันวาคม ปี 2002



"นั้นคือ ช่วงเวลาที่สำคัญมาก เมื่อลูกชายของผมฝึกกำลังฝึกอย่างหนักเพื่อที่จะมาเป็นนักร้อง ภรรยาของผมกำลังอยู่ด้วยอาการที่แย่มาก ผมจึงได้เดินทางไปบราซิล ย้ายไปเรื่อยๆๆ ระหว่างนั้นเงินจำนวนมากที่ได้มาก็ใช้ไปกับค่ายาซึ่งแพงมาก คุณลองจินตนาการถึงความลำบากตอนนั้น ช่วงที่ภรรยาผมตาบอดจากอาการข้างเคียงของโรคเบาหวาน ในระยะยาวร่างกายส่วนต่างๆ ของเธอเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ ตอนนั้นลูกๆ ผมไม่มีเงินติดแหมสักเซ็นต์เดียว เมื่อคิดถึงมันตอนนี้ ผมรู้สึกผิดต่อลูกๆ และภรรยาของผมมาก

คุณพ่อชองรู้สึกอย่างนั้นเสมอ ถ้าไม่เพราะหน้าที่การงานของเค้าที่ที่ล้มเหลว ภรรยาของเค้าก็จะไม่ต้องเครียดและจากโลกไปเร็วอย่างนี้ เพราะความรู้สึกผิดต่อสิ่งที่เกิดขึ้น คุณพ่อชองจึงเลิกสูบบุหรี่และดื่มเหล้า"


"หลังจากที่ภรรยาผมจากไป ลูกชายผมก็ไม่พูดกับผมเลย 2 ปี ยอมรับว่าการแลกเปลี่ยนเรื่องต่างๆ ในแต่ละวัน เราไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกัน ทั้งเข้าใจทั้งทุกข์และสุขของแต่ละคนที่เป็นไป และพวกเค้าไม่ต้องการตักเตือนหรือสั่งสอนใดๆ ความรู้สึกผิดของผมที่เพิ่มขึ้นในแต่ละวันที่แสดงออกมาบนใบหน้าของลูกชาย"

แม่ของพีเคยพูดไว้ในวาระสุดท้ายของเธอ "คุณต้องทำ อะไรที่คุณต้องการจะทำ"

"หลังจากการเปิดตัวของผม เมื่อผมกลายเป็นยอดนักร้อง ผมจะนำรางวัลไปที่หลุมศพของคุณแม่" นี่คือคำสัญญาที่พีได้ให้ไว้กับแม่ที่เตียงนอนที่แม่เค้าเสียชีวิต หลังจากที่แม่เค้าได้เสียชีวิตไปแล้ว เค้าได้ฝึกฝนตนเองเหมือนสั่งให้ตัวเองไปสู่ความสำเร็จ ทำงานอย่างหนักโดยไม่กลัวอะไร
3 ปีก่อน เค้าเริ่มจากการได้รับฟีดแบ็กที่ดีกับเพลง "Bad Guy" หลังจากภรรยาของผมได้จากโลกนี้ไปแล้ว ครอบครัวผมก็แตกแยกกัน ผมทำงานที่ millhouse พีพักที่โรงแรมตามที่ JYPE ต้องการ เพื่อชีวิตของเค้าเอง หลังจากนั้นผมได้ยินว่า ทุกวัน เป็นเวลาหลายเดือน เค้าได้กินเพียงแค่บะหมี่สำเร็จรูปและการฝึกของเค้า ทั้งร้องและเต้น ราวกับเป็นบ้า มันบีบคั้นหัวใจผมมาก


"เมื่อใจของเค้าต้องการพ่อแม่มากที่สุดนั้น ผมไม่สามารถให้เค้า หรือ ช่วยใดๆ ได้เลย"


หลังจากที่ได้รับรางวัล พีตรงไปที่หลุมศพของแม่เค้าที่ Gyeonggi-do เมือตารางงานของเค้าเรียบร้อยแล้ว เค้าจะวางงาน festivals หรือ the anniversary และเดินทางไปยังหลุมศพพร้อมครอบครัวแล้วไปยังหลุมศพของแม่ โดยปราศจากความทุกข์



"โดยปกติ เค้าจะไปเยี่ยมหลุมศพแม่เพียงคนเดียวเดือนละ 1 ครั้ง เมื่อผมมองลูกชายแล้วมองเด็กผู้ชายคนอื่นที่อายุรุ่นเดียวกัน เค้าโตกว่ามาก เค้าคิดถึงแม่มาก เค้ามีเหตุผลทุกครั้งที่ตำหนิผม แต่อย่างไรก็ตามเค้าดูแลผมมาก เมื่อผมกลับบ้านอยู่คนเดียว "อย่าอยู่คนเดียวที่บ้านนะ ออกไปเที่ยวหรือออกกำลังกายบ้าง" เค้าจะพูดแบบนี้ ไม่สามารถที่จะอยู่บ้านและพักผ่อนสักวัน เค้าจะกลับบ้านในตอนเช้า ช่วงตี 3 - 4 "มันคือสิ่งที่คุณพ่อชองตั้งใจทำให้ดีที่สุดเพื่อลูกชาย ก็คืออาหารร้อนๆ"

มองดูลูกชายของตัวเองทำงานอย่างหนักเหมือนตายกันไปข้างนึงเพื่อเป้าหมายของเค้า คุณพ่อชองรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องที่พูดว่า 10% ที่ได้มานั้นจากความสามารถของเค้า ส่วนอีก 90% นั้นมาจากการทำงานอย่างหนักนั่นเอง เมื่อท่านเห็นลูกชายทำงาน ท่านหวังว่าจะช่วยอะไรได้แหมเพียงสักเล็กน้อย แต่เมื่อลูกชายทำงานเสร็จแล้วเสมอๆ เค้าจะนิ่งและคิด อะไรคือสิ่งที่เค้าต้องทำเพื่ออนาคตนั่นเอง


"สมัยผมยังเด็ก ผมไม่เคยต้องทำงานหนักเหมือนลูกชายเลย บางครั้งผมต้องการเป็นผู้นำชีวิตตัวเอง บางครั้งผมต้องการสนุกกับเพื่อนผม นี่คือนิสัยปกติของเด็กปกติ แต่ลูกชายผม เค้าคิดถึงอนาคต บางครั้งเมื่อเค้ากลับมาพักที่บ้าน เค้าจะไม่การพูด เมื่อรู้สึกไม่สบายใจและจะออกไปฝึกที่สตูดิโออีกครั้ง ผมไม่สามารถที่จะหยุดเค้าได้เลย นี่คือความความเจ็บปวดในใจของผมเกี่ยวกับเค้า"


พีไปโรมกับพ่อและน้องสาว เมื่อวันที่ 17 มกราคม พวกเขาอยู่ที่นั่น 1 สัปดาห์ก่อนเดินทางกลับ ลูกชายของท่านป้อบปูล่ามากให้หมู่สาวๆ คุณพ่อชองประหลาดใจมาก บางครั้งเค้าออนไลน์พร้อมอารมณ์ดีเมื่ออ่านข้อความจาก benamoo café เป็นต้น

บนเวที ภาพของพีที่ทุกๆ ส่วนของร่างกาย พริ้วไหวด้วยลีลาเต้นอันเซ็กซี่และน้ำเสียงอันยากจะอธิบายและเป็นเอกลักษณ์ แต่เค้าไม่เคยพอใจกับตัวเองและขยันมากขึ้นกว่าเดิม แม่บ้านบางคนที่ดูพีในทีวี จนลืมทำอาหารค่ำ เพราะพวกเค้าประชดสามีของพวกหล่อนเอง บางครั้งเมื่อไปสตูดิโอเพื่อดูเค้า แต่พีไม่สามารถส่องประกายได้เหมือนนักร้อง เค้าสามารถทำได้ดีเยี่ยมเมื่ออยู่ใน ซางดูและฟูลเฮ้าส์ ซึ่งได้รับความคิดเห็นที่ยอดเยี่ยมกับงานและความสามารถของเค้า ถึงขั้นติดอันดับของบ็อกออฟฟิศ


ทำไม อะไรคือสิ่งที่ทำให้พีไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย? มันคือพ่อของเค้าที่มีบางสิ่งที่คอยกระตุ้นให้เค้าดีขึ้น ด้วยบางอย่างที่พิเศษและเฉพาะตัวใช่หรือไม่ เราอยากรู้จริงๆ เลย

"โอ้..ลูกชายผม ยุ่งเพียงพอแล้วกับชีวิตของเค้า ลองคิดดูนะ เค้าเหนื่อยแล้ว เค้าจะเหนื่อยอีกถ้าต้องมากังวลเกี่ยวกับเรื่องของผมอีกก!! เค้าบอกผมบ่อยๆ ว่าให้ผ่อนคลายบ้างและกลัวว่าผมจะรู้สึกเหงา ถ้าผมอยู่บ้านคนเดียว ปลายปีที่แล้วเมื่อเค้ามีซีรี่เรื่องใหม่ ผมเบื่อมากที่อยู่บ้านเพราะผมป่วย! ผมไม่เคยดูทีวีเลย แต่ผมดู ทุกๆ ตอนของฟูลเฮ้าส์เลยจนจบ จากนั้นทีวีก็เลยเข้ามาในชีวิตผม (พร้อมหัวเราะ)

คุณพ่อของพีตอนนี้พักอยู่ที่บ้านมา 1 ปีครึ่งแล้ว เค้าจะออกวิ่งจาก millhouse และร้านขายเค้ก จนกระทั่งพีอยู่ junior high มีอยู่ช่วงนึงที่พวกเค้ามีบ้าน 2 หลัง แต่ก็มาจบลงด้วย IMF ท่านพยายามมากในการทำงาน แต่มันก็ไม่ประสบความสำเร็จ



ถึงแม้ว่าลูกชายไม่เคยร้องขอให้ไม่ไปทำงานและอยู่ที่บ้าน แต่เมื่อมองเห็นลูกชายทำงานอย่างหนัก ท่านก็หวังว่าจะช่วยได้สักนิดโดยการคอยอยู่เคียงข้างเค้า ดังนั้นคุณพ่อชองจึงเลิกทำงานในต่างประเทศ ท่านหวังเพียงว่าจะไม่เกิดขึ้นอีก เมื่อเวลาที่พีต้องการท่านแต่ท่านไม่ได้อยู่เคียงข้าง


"เมื่อไรก็ตาม ที่ผมบอกให้เค้าดูแลตัวเอง เค้าจะบอกให้ผมดูแลน้องสาวเค้าก่อนเถอะ เพราะเธอใกล้จะสอบเข้าแล้ว ใช่แล้ว นั่นเพราะว่า ฮาน่าเป็นน้องสาวคนเดียวของเค้า แต่มันเป็นเพราะแม่ของเค้าที่เสียไปแล้วได้พูดกับเค้าว่า "แม่ฝากน้องสาวลูกไว้กับลูกด้วยนะ" น้องสาวของเค้าจะสอบใหม่อีกครั้ง เธอคล้ายกับพี่ชายของเธอมากในหลายๆ อย่าง ดังนั้นเธอต้องการเข้าไปเรียนในสาขาภาพยนตร์ ของมหาวิทยาลัย แต่การแข่งขันสูงมาก หล่อนจึงสอบเข้าใหม่ มันขึ้นกับว่าหล่อนจะเข้าไปได้หรือไม่ หลังจากนั้นผมจะทำบางสิ่งเพื่อตัวเองหลังจากที่เธอเข้ามหาวิทยาลัยไปแล้ว ผมอายุ 50 ปีเท่านั้นเอง ไม่สามารถที่จะอยู่บ้านทั้งวัน ด้วยวัยเพียงเท่านี้ได้"


""การเดินทางไปอิตาลิของครอบครัว เมื่อวันที่ 17 มกราคม เป็นการเสร็จสิ้นการโปรโมทอัลบั้มที่ 3 ของเค้า แค่เค้ามายุ่งกับการเตรียมคอนเสิร์ทแรกของเค้าแทน เค้ากำลังจะมีซิงเกิ้ลแรกในญี่ปุ่น ในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า และกำลังจะไปโปรโมทซิงเกิ้ลนี้ ดีไซน์เนอร์ที่ทั่วโลกรู้จักกันดี คือ อาร์มานี่ ได้เชิญพีไปเป็นตัวแทนของเอเชียในงานแฟชันโชว์ของเค้า และบอกว่าเค้ากำลังดีไซน์สิ่งบางสิ่งที่พิเศษสำหรับเท่านั้น อาร์มานี่พิจารณาศิลปินหลายคนในเอเชียแต่สุดท้ายก็เลือกพี เพราะพีดูดีและมีเสน่ห์ ตอนที่ได้รับการเชิญ พีพูดว่า มันเป็นสิ่งที่ดีมากเลยที่ครอบครัวของเค้าจะได้ไปด้วยกันในการเดินทางครั้งนี้ มันเป็นเวลานานแล้วที่เค้าไม่มีโอกาสได้ไปไหนด้วยกัน เมื่อพวกเค้ามีโอกาสไปเที่ยวด้วยกันในวันหยุดอีกครั้ง ถ้าเค้าไม่ทำมันในเวลา เค้าอาจจะไม่มีโอกาสอีก"

แต่พวกเค้าตัดสินใจกับทริปนี้ทันที และคุณพ่อชองเริ่มไม่ง่ายเลย ตั้งแต่เมื่อมีการการสัมภาษณ์ ท่านดูผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น ก็ตอนนี้แหล่ะ

"ผมต้องการแชร์กับลูกชายผม คำต่างๆ ผมไม่ต้องการพูดเกี่ยวกับทริปนี้ ความรู้สึกทั้งหลาย ผมจะเก็บไว้ในก้นบึ้งของใจตราบนานเท่านาน"

มองดูแล้วท่านเริ่มเปิดเผยมากขึ้น ผมถามคำถาม กำลังลังเลที่จะถามคำถาม คุณพ่อชองตอนนี้อายุ 50 ปีเท่านั้น ท่านคิดที่จะแต่งงานใหม่บ้างมั้ย? พีสนับสนุนให้ท่านอย่างนั้นมั้ย?


"เมื่อผมคิดถึงภรรยาของผม มันเป็นไปไม่ได้เลยที่คิดจะแต่งงานใหม่อีกครั้ง เมื่อผมไม่รู้ว่าโรคเบาหวานจะกำเริบเมื่อไร และต้องไปทำงานต่างประเทศบ่อยๆ ผมทิ้งเธอให้อยู่คนเดียวโดยมีเงินไม่เพียงค่ายาที่แพงมาก..ลูกชายผมไม่เคยพูดถึงเรื่งอนี้เลย ทั้งๆ ที่ผมไม่รู้ว่าชีวิตจะเป็นอย่างไรเมื่อลูกๆ ทั้ง 2 คนแต่งงาน แต่ยังไม่มีความคิดเรื่องการแต่งงานใหม่ในตอนนี้"
จิตใจของคุณพ่อชอง อย่างแรกคือการสอบเข้ามาหาวิทยาลัยของลูกสาว และสิ่งที่ต้องทำของลูกชาย ถึงแม้ว่าบางสิ่งบางอย่างในอนาคต ท่านหวังว่าจะเห็นพีสำเร็จการศึกษายังเหลืออีก 2 ปี ในมหาวิทยาลัย และหลังจากการรับใช้ชาติ พบกับผู้หญิงดีๆ และสร้างครอบครัวที่มีความสุข



ลูกสะใภ้แบบไหนที่คุณพ่อชองต้องการ? มีการฝันไว้มั้ยว่าเหมือนกับในฟูลเฮ้าส์ ผมถามท่านว่า ถ้าเป็น ซอง เฮเคียวล่ะ ท่านต้องการมั้ย หลังจากมีข่าวลือ ซุบซิบเกี่ยวกับการปิ๊งและถูกใจกัน ของการคบหากันของพวกเค้าปรากฎออกมา


"มันเป็นเรื่องธรรมชาติสำหรับคน 2 คนที่ ทำงานใกล้ชิดกันตลอดเพราะพวกเค้าการถ่ายทำกันทั้งวัน ทั้งคู่จะสานต่อกันหรือไม่ เค้าไม่ได้บอกผม ผมรู้แค่ว่าทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกันมากๆ แต่ถ้าผมจะมีลูกสะใภ้เหมือน ซอง เฮเคียวในละครก็ดีนะ...ร่าเริงสดใสและแข็งแรง"

คุณพ่อชองเชื่อว่าลูกชายของท่านสามารถจัดการให้เรียบร้อยได้ ถ้าเค้าต้องการทำ และจะยังคงทำงานหนักต่อไป ท่านเชื่อว่าลูกชายของท่านจะพบกับผู้หญิงในฝันของเค้าที่ดีแน่นอน

ถึงแม้ว่าการสัมภาษณ์ดูยากเมื่อเริ่มต้น แต่เราจบการสัมภาษณ์อย่างเปิดเผยและเป็นกันเองสำหรับเวลาที่ยาวนานนี้ เพราะว่าการสัมภาษณ์นี้ คุณพ่อชองกล่าวถึงลูกชายที่ท่านภาคภูมิใจ "เหมือนกับภาษิตที่เค้าทำไว้ก่อนการ debut ผมหวังว่าเค้าจะทำงานหนักและยังคงอยู่ได้อีกนานเท่านาน และอยู่อย่างคนสมถะ" ความเข้มแข็งกับรักของครอบครัวของพีอันเป็นสมบัติล้ำค่าอย่างมากนี้ ผมหวังว่าเค้าจะฟันฝ่าอย่างกล้าหาญและไม่พบกับอุปสรรคใดในอาชีพของเค้าในปี 2005!

น่ารักนะเด๋วรูปคู่จ๋าแปปนึง

น่ารักเน้อว่าไม่ค่ะ

หวัดดีทุกๆคนเรยยย
**ฉานไม่ได้นอนมา 2 วันแร้วว(งีบๆนะก็มี พูดให้น่าสงสาร) ทำงานหนักมากที่จิงก็ไม่ช่ายงานตัวหรอก ช่วยเพื่อนให้มันเรียนจบๆกานไป
ง่างมาก แต่แวะมาทักกานก่อน
To: นุ่นอย่าคิดมากน้า ฉานยังไม่ทันคิดอารายเลย แค่ช่วงนี้ทำงานหนักไปหน่อยเอง....
To : พี่ยุ้ย ขอบคุงที่แปะบทสัมภาษณ์พ่อปู่ของฉาน

ตอนนี้ฉานใส่ชุดเดิมของวันอังคาร และหน้ามันพอๆกะ bibi และก็แดนเซอร์ในภาพนี้เรยยย เอามาให้ดูเป็น case study ลักษณะหน้ามันของฉานตอนนี้

ตอนนี้ตาฉานจะไม่เปิดอยู่แร้ววว ร่างกายไม่ให้แต่ใจรัก ยังยืนหยัดโพสรูปต่อไป 5555

ฉานจาต้องเอนกายลงนอนแร้วว เพราะbibiทำท่าทางเชิญชวนเหลือเกิน อุ๊ย!!!! ติดเรทแร้วค่ะ ขอบโทดที บายๆ

คุณ nanzy ค่ะขอเอ็มหน่อยสิค่ะหรือไม่ก็แอดมาที่ yokky_shower@hotmail.com น่าค่า

nunanz_@hotmail.com ชื่อ แนน ค่ะตัวด้วยนะค่ะ

ขอบคุงพี่ยุ้ยนะค่ะที่หาข่าวดีๆมาให้อ่าค่า

[img]http://cfs3.blog.daum.net/upload_control/download.blog?[/img] มันจาได้รูปหรือป่าวน๊า

แง่ว