♥ FEI LUN HAI_S.H.E_DT FAMILY ♥

แม่นางฮวาจิน
[ 19-02-2008 - 11:30:27 ]










งานเดียวกาน ที่ฮ่องกง

แม่นางฮวาจิน
[ 19-02-2008 - 11:30:50 ]










แม่นางฮวาจิน
[ 19-02-2008 - 11:31:58 ]










ถ้าข้อมูลผิดพลาดไป ขอโทษด้วนะคะ และรบกวนคนที่รู้ ช่วยแก้ข่าว ให้ทีนะคะ
แม่นางฮวาจิน
[ 19-02-2008 - 11:32:32 ]










แม่นางฮวาจิน
[ 19-02-2008 - 11:33:23 ]









สุภาพบุรุษสุดหล่อ

แม่นางฮวาจิน
[ 19-02-2008 - 11:33:43 ]









แม่นางฮวาจิน
[ 19-02-2008 - 11:34:24 ]










แม่นางฮวาจิน
[ 19-02-2008 - 11:34:53 ]









แม่นางฮวาจิน
[ 19-02-2008 - 11:35:16 ]









แม่นางฮวาจิน
[ 19-02-2008 - 11:38:26 ]










แม่นางฮวาจิน
[ 19-02-2008 - 11:39:06 ]










แม่นางฮวาจิน
[ 19-02-2008 - 11:39:32 ]









แม่นางฮวาจิน
[ 19-02-2008 - 11:40:10 ]










แม่นางฮวาจิน
[ 19-02-2008 - 11:46:20 ]







ข่าวจ้า ข่าว

Source: ent.163.com
Credits: http://fahrenheit-hk.com
Translations by Scarlett @ http://wuchun10cool.invisionplus.net
Thai Translation by Gwenny or แมวจรจัด

------------------------------------------------------

อู๋จุนเปลื้องผ้า ยืนยันเรื่องการติดต่อจากโจวซิงฉือ

ตอนบ่ายของวันที่ ๗ ที่ผ่านมา สมาชิกวงเฟยหลุนไห่ "อู๋จุน" ได้มายังกวางโจวเพื่อโปรโมทละครเรื่อง ฮวาหย่างเส้าเนียนเส้านวี่ แฟนมากกว่าร้อยคนได้มายังสถานที่จัดงาน ระหว่างการสัมภาษณ์ จุนได้เล่าว่าตอนที่เขาและเอลล่าได้เจอกันครั้งแรกนั้น เขากลัวที่จะพูดกับเธอมาก ส่วนสำหรับข่าวลือที่ว่าโจวซิงฉือสนใจในตัวเขา จุนยืนยันในเรื่องดังกล่าว เขาบอกว่าเขาดีใจมากแต่เพราะว่าตารางงานของเขาในปีนี้นั้นเต็มหมดแล้ว เขาเลยไม่แน่ใจว่าจะเป็นร่วมเล่นละครได้หรือปล่าว และเขาบอกว่าเป็นหน้าที่ของบริษัทที่จะดำเนินการในเรื่องนี้

เปลื้องผ้าออก แฟนต่างกรีดร้อง

จุนมาถึงบริเวณงานราว ๒.๔๐ การมางานโปโมทด้วยตัวคนเดียวเป็นครั้งแรกทำให้เขาเป็นกังวลมากๆ (ดูรูปงี้แรดเจียว หรือว่ายิ่งกังวลยิ่งแรดอ่ะป๊า) อย่างไรก็ตาม บรรดาแฟนๆต่างยินดีต้อนรับเขาอย่างมาก ทำให้เขาปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมอย่างรวดเร็ว (ชายเหนือจิตนาการ ทำได้ทุกอย่าง) จุนดูเป็นคนเท่ๆและเงียบๆในละคร แต่ตัวจริงแล้ว เขาเป็นคนที่ร่าเริงและมีชีวิตที่ฉูดฉาด เขายังเป็นคนที่ฉลาดมากและรู้ว่าจะทำอย่างไรให้แฟนๆมีความสุข เขาจะเก็กท่าน่ารักๆให้กับแฟนๆในระหว่างที่พยายามสื่อสารกับพวกเขา ในช่วงเริ่มต้น จุนถามแฟนๆว่าถ้าแฟนๆอยากให้เขาเปลื้องผ้าออกมั้ย และแน่นอนว่าแฟนๆต่างกรีดร้องกันออกมาทันทีทันควัน อย่างไรก็ตาม จุนก็แค่ยิ้มและบอกว่าเขาล้อเล่น (แหง่ง มาล้อแถวบ้าน จะปีนไปจับถอด –“-)

เขาเล่าให้ฟังว่า ระหว่างถ่ายทำเรื่องฮวาหย่างเส้าเนียนเส้านวี่ ผกก มักจะขอให้เขาถอดเสื้อออก แต่จุนที่ไม่ชอบจะเปิดเผยร่างกายมากนักก็จะตอบ ผกก บ่อยๆว่า "ไม่อีกแล้วนะฮะ"

กลัวที่จะพูดกับเอลล่า

หลังจากที่ได้เล่นละครกับเอลล่า พวกเขาก็ได้ตกเป็นข่าวว่าเป็นแฟนกัน ระหว่างงาน จุนได้ถูกถามว่าเขาชอบหญิงสาวที่มีลักษณะแบบทอมบอยแบบเอลล่าหรือปล่าว จุนตอบอย่างฉลาดว่า “เอลล่าจริงๆแล้วมีความเป็นผู้หญิงมากนะฮะ” เขาบอก “พูดกันตามเป็นจริง มันก็ขึ้นอยู่กับความรู้สึกล่ะครับ (ตอบเหมือนเดิมเยย –“) "ถ้ามันมีความรู้สึกระหว่างกัน มันก็จะดีเอง” เขาบอกว่า ตอนที่ถ่ายละครตอนแรกๆนั้น เขาเป็นคนเงียบมาก ส่วนเอลล่านั้นส่งเสียงดังเสมอๆ และเขาก็จะนั่งเงียบๆ เขาเลยไม่กล้าที่จะคุยกับเธอ แต่หลังจากสองสามสัปดาห์ของการถ่ายทำ เขาก็สนิทกันมากขึ้นและกลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน


การร่วมงานกับโจวซิงฉือยังไม่ตกลงเรียบร้อย

ตอนทีจุนเข้ามาสู่วงการบันเทิงใหม่ๆนั้น ความฝันสูงสุดของเขาคือการเล่นภาพยนตร์ "ตอนผมเข้ามาวงการใหม่ๆ ผมอยากจะเล่นภาพยนตร์ฮะ โดยเฉพาะหนังแอกชั่น เพราะว่าผมชอบจะออกกำลังกายและเคลื่อนไหวมาก ขวัญใจของจุนคือ เฉินหลง "ผมอยากจะทำงานกับเฉินหลงมากๆฮะ ผมว่าหนังแอคชั่นนั้นสนุกมาก และตลกด้วย (ระวังจะโดนใช้ให้ปีนดอยแบบคุณแวน เหอ เหอ)

เร็วๆนี้ได้มีรายงานว่า บริษัท Sing Fai ของโจวซิงฉือได้มีความสนใจอย่างมากในตัวจุนและวางแผนจะดึงตัวเขามาเล่นละครเรื่อง Kung Fu Tsuen Yan จุนได้ยืนยันว่ามีการติดต่อจริง “โจวซิงฉือมาที่บริษัทของเรา และถามผมว่าจะมาเล่นละครเรื่องนี้ได้มั้ย แต่ว่าตารางงานของผมมันเต็มมากๆ เราจึงได้แต่รอให้บริษัทจัดการเรื่องนี้ฮะ” เขาบอกว่าเขาชอบโจวซิงฉือมากๆ “ผมเคยได้ดูหนังของเขาหลายเรื่องตั้งแต่ยังเป็นเด็ก และผมก็ชอบมันมากๆ ถ้าหากเขาอยู่ที่นี้ตอนนี้ ผมคงจะวิ่งเข้าไปหาเขาและขอลายเซ้นต์เขาทันทีฮะ”

เฟยหลุนไห่จะ “บิน” ไปด้วยกัน

(เป็นการเล่นคำค่ะ เฟยของเฟยหลุนไห่ตัวนี้คือเฟยที่แปลว่าบิน)

จุนเป็นสมาชิกของวงบอยแบนด์ชื่อดังเฟยหลุนไห่ นอกจากเขาแล้ว สมาชิกที่เหลือคือ วัง ตง เฉิน หรือจิโร่ วัง หรือต้าตง เฉินอี้หรู หรือแคลวิน เฉิน และเหยียนหย่าหลุน หรือแอรอล เหยียน เขาได้เป็นเผยว่าพวกเขานั้นมักจะเล่นตลกกันเสมอๆ ไม่ได้มีการแข่งขันกันเลยว่าใครหล่อกว่าใคร บางครั้งพวกเขาก็จะพูดเกี่ยวกับสาวๆด้วยกัน (สาวๆไงอ่ะ ประมาณว่าวันนี้แคลเก้บตกเมียชั้นไปกี่คนอย่างงั้นเหรอ แหง่งๆ)

ด้วยชื่อเสียงจากละคร พวกเขาได้โด่งดังมากขึ้นเรื่อยๆทั่วเอเชีย และพวกเขาก็ได้วางแผงอัลบั้มของพวกเขาในที่สุด และกลายเป็นหนึ่งในกลุ่มบอยแบนด์อันดับแรกๆของเอเชีย อย่างไรก็ตามเฟยหลุนไห่ไม่สามารถอยู่ร่วมกันตลอดไปได้ F4 ผู้ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังมาก่อนพวกเขาก็ได้เริ่มที่จะแยกตัวจากกัน จุนบอกว่า เขาไม่เคยคิดถึงการแยกตัวออกจากเฟยหลุนไห่แม้แต่น้อย

“พวกเราทั้งสี่คนทำงานร่วมกันเพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายร่วมกัน เราจะทำงานร่วมกันต่อไปฮะ”
แม่นางฮวาจิน
[ 19-02-2008 - 11:52:34 ]







อีกข่าวค่ะ อีกข่าว


เมื่อตอนที่พวกเขาไปโปรโมตที่ฮ่องกงมีเพียงแค่แฟนเพลงที่เป็นเด็กวัยรุ่นเท่านั้นที่รู้ว่า ใครคืออู๋จุน ใครคือถังอวี่เจ๋อในละครเรื่อง Hana-kimi แต่หลังจากการมาโปรโมทของพวกเขาในฮ่องกง ซึ่งทำให้พวกเขากลายเป็นข่าวใหญ่บนหน้าหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับบันเทิง เราแน่ใจได้เลยว่า ตอนนี้ ไม่มีใครไม่รู้จักพวกเขา


ไอดอลลอกเลียนแบบ
(มันแปลว่า เถื่อน ผิดกฎหมายอ๊า คิดว่าเค้าตั้งไว้ให้แรงๆ ดูน่าสนใจ)

ครั้งแรกที่ได้เห็นจุนในหนังสือดาราไต้หวัน ตอนนั้นชั้นคิดได้แค่ว่า “เอ๋ เหมือนหลี่หงเลย” พอเดือนพ.ย ปีที่แล้ว จุนก็มาฮ่องกงในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของวงเฟยหลุนไห่ และชั้นก็ได้เจอเค้าตัวจริง ชั้นก็คิดว่า “ว๊าว เค้าหน้าเหมือน Kenny Kwan มากกว่า” (ใช่สมาชิกวง Boyz ป่ะ) ครั้งนั้นตอนชั้นพบเค้า ภาพเก่าๆที่เคยคิดไว้ก็หายไปหมดเลย เพราะว่าหลี่หงไม่ได้เป็นคนที่ใกล้ชิดและไม่รักษาระยะห่างกับนักข่าวอย่างนี้ แถมเคนนี่ก็ไม่ได้สูงถึง 180 และไม่ได้มีหุ่นแบบครูสอนฟิตเนสแบบนี้ด้วย


”ก่อนจะมาอยู่ในวงการนี้ ผมเป็นครูสอนฟิตเนสครับ วันหนึ่งเพื่อนถามว่าผมอยากจะมาเป็นดาราบ้างหรือปล่าว คนบรูไนทั่วไป ไม่ฝันอยากจะเป็นดารากันหรอกครับ ตอนนั้นผมก็คิดว่า ไม่มีทางหรอก บวกกับตอนนั้นผมออกจะไว้ตัวและขี้อายด้วย ผมเลยไม่กล้าที่จะทำอะไรแบบนั้นหรอก แล้วเพื่อนผมเลยถามว่า งั้นอยากเป็นนายแบบบ้างหรือปล่าวล่ะ มันจะช่วยให้เพิ่มความมั่นใจในตัวเองด้วยนะ ถ้าผมไม่กล้าทำงานนั้น ก็ลืมเรื่องที่จะเป็นดาราได้เลย”


จากคำพูดของเพื่อน จุนเลยไปที่สิงคโปร์เพื่อเป็นนายแบบ และภายในเดือนเดียว เขาก็ไปทำงานที่ไต้หวัน บางทีมันอาจจะเป็นเพราะเค้าเกิดมาเพื่อที่จะเป็นอย่างนี้ พอเขามาอยู่ที่ไต้หวันได้เพียงแค่ สองสัปดาห์ เขาก็ถูกค้นพบจากโปรดิสเซอร์ชื่อดัง


“เขาให้นามบัตรผมไว้ฮะ แล้วถามว่าผมอยากไปเคสตัวหรือปล่าว ตอนนั้นผมกังวลมากๆ เพราะว่าเขาบอกว่า ละครเรื่องนี้จะมี Simon Yam กับ Ariel Lin เล่นด้วย ว้าว มันต้องเป็นละครฟอร์มใหญ่แน่ๆ”


หลังการคัดตัว โปรดิสเซอร์เลือกจุน และบอกด้วยว่า เขานั้นมีส่วนคล้ายกับบทมาก “เขาคิดว่าผมดูเยือกเย็นและเป็นคนนิ่งๆดี หลังจากผมได้อ่านบท บ้าน่า มันต่างกันจะตาย แต่ว่าผมได้เซ็นต์สัญญาไปแล้ว ทางเดียวที่ผมจะทำได้ก็คือเรียนรู้การแสดงและแสดงมันออกไป โชคดีที่ผมมีผกก ที่ดีและสอนหลายๆอย่างให้ผมมาก”


ความเป็นคนบรูไน

พอละครออกฉาย จุนก็โด่งดังขึ้นมาทันที พอเล่นละครเรื่องที่สอง ฮวาหย่างเส้าเนียนเส้านู่ เขาก็ได้ขโมยหัวใจสาวในเกาะฮ่องกงไปมากมาย ครั้งที่เขามาฮ่องกงหนคราวที่แล้วในฐานะสมาชิกวงเฟยหลุนไห่ เพื่อมาเล่นคอนเสริต แม้ว่าจะได้เอาชนะใจสาวๆหลายร้อยคนไปแล้วก็ตาม เขาและเพื่อนร่วมวงของเขา แคลวินก็ยังสามารถแอบปลอมตัวเดินเล่นในถนนของฮ่องกงได้โดยไม่มีใครสังเกต ครั้งนี้ แม้แต่สนามบินเขายังหาทางออกมาได้ยากเลย เรื่องที่อยากจะออกไปช้อปปิ้งเหรอ ไม่มีทาง

คุณคิดว่าคุณได้สูญเสียอิสระไปบ้างมั้ย ชั้นถามเขา เขาก็เปลี่ยนไปตอบเป็นภาษากวางตุ้ง “ใช่ฮะ ก่อนหน้านี้ผมไปไหนมาไหนก็ได้ ตอนนี้ผมทำไมได้แล้ว แต่ยังไง ผมก็ยังคิดวามันก็ยังมีความสุขอยู่ดี” จุนคิดว่าการเข้ามาในวงการนี้เป็นเพราะเขาจะได้ทำให้คนอื่นรู้จักตัวเขา เมื่อประสบความสำเร็จในเรื่องดังกล่าว เขาก็มีความสุขดี “ถึงจะเสียอิสระไปบ้าง แต่มันก็คุ้มค่านะฮะ”


มีศิลปินบางคนเป็นที่รู้จักกันดีถึงเรื่องอารมณ์และการวางตัวของพวกเขา และยังรวมไปถึงผจก ที่ทำตัวแบบเดียวกัน พวกเขาคิดแค่ว่าพวกเขาโด่งดังและดีกว่าคนอื่น มันมีครั้งหนึ่งที่พอนักข่าวเสร็จสิ้นการให้สัมภาษณ์ ศิลปินคนนั้นก็ลุกไปเลยและไปคุยแต่กับพวกทีมงาน ไม่แม้แต่จะมองหรือสนใจนักข่าว แต่ก็แน่ละ มันก็มีดาราที่นิสัยดีและไม่ห่างเหินกับนักข่าว และทำตัวเหมือนเพื่อน แน่ล่ะจุนถูกนับให้อยู่ในพวกหลัง


”ครั้งแรกผมได้ถ่ายละครกับ Simon Yam และ Ariel Lin ครั้งที่สองกับเอลล่า ทั้งสามเป็นดาราที่ผมชื่นชอบและมีอิทธิพลมากกับผม ไม่ว่าเขาจะโด่งดังแค่ไหน เขาก็จะทำตัวเป็นกันเองกับทุกคน ไม่มีกำแพงกีดกั้น ผมว่าผมคงจะได้เรียนรู้จากพวกเขาฮะ”


นอกจากจะได้รับอิทธิพลจากสามดาราดังแล้ว ความเป็นคนบรูไนในตัวของจุน ยังเป็นสิ่งที่สำคัญ “ชาวบรูไนเป็นคนง่ายๆฮะ เราไม่ได้มีโอกาสจะได้เห็นอะไรมากมายนัก ดังนั้นก็เลยไม่ค่อยจะมีความซับซ้อน ทุกคนเลยออกจะมีชีวิตที่เรียบง่าย”


หัวใจดวงเดียว ต้องใช้งานถึงสามอย่าง

จุนจบการศึกษาจาก RMIT ที่ออสเตรเลีย ได้ปริญญาด้านบริหารธุรกิจ หลังจากนั้นเขากลับมาบรูไนและได้เข้าทำงานกับบริษัทใหญ่ช่วงหนึ่ง หลังจากนั้นเขาก็ออกมาทำงานข้างนอก และได้ตัดสินใจจะเปิดยิมเป็นของตัวเอง เขาได้เรียนรู้วิธีที่จะทำธุรกิจด้วยตัวเอง แม้ว่าเขาจะมาเป็นดาราแล้ว เขาก็ยังไม่เลิกกิจการของตัวเองในบรูไน เขายังคงติดต่อกับเพื่อนร่วมงานเสมอๆ ทั้งการถ่ายละคร ร้องเพลงและทำธุรกิจ เขามีหัวใจเพียงดวงเดียว แต่ใช้ทำถึงสามอย่าง


ตอนเขาเริ่มงานร้องเพลง จุนไม่รู้อะไรเลยจริงๆเกี่ยวกับการร้องเพลง “ที่บรูไนเราไม่มีคาราโอเกะฮะ และมีคนไม่กี่คนหรอกที่ร้องเพลงน่ะ ดังนั้น พอผมได้ยินเรื่องการฟอร์มวงเฟยหลุนไห่ ผมไม่มั่นใจในตัวเองเลย มันเร็วเกินไปแต่ทุกคนกลับพูดว่ามันเป็นโอกาสดีที่จะเรียนรู้นะ ผมเลยคิดในฐานะของมนุษย์คนหนึ่งว่าเราก็ควรจะเรียนรู้ให้เยอะๆ ถ้าเราทำได้ดีหรือไม่ดี ยังไงเราก็ทำดีที่สุดแล้ว ผลงานจะออกมาเป็นอย่างไรก็ไม่สำคัญแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือ เราต้องพัฒนาตัวเองให้มากขึ้นทุกๆวันต่างหาก"


มาฮ่องกงเพียงไม่กีวัน แต่จุนมักจะพูดกวางตุ้งเสมอ เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาจะเจอนักข่าว เขาจะพูดกวางตุ้ง เพราะว่าเขาเรียนกวางตุ้งจากเพื่อนที่ออสเตรเลีย เขารู้เรื่องนิดหน่อย ที่เหลือเขาบอกว่าก็เดาๆเอา


"ผมรู้หลายคำจากหนังฮ่องกงที่ผมเคยดูตอนเด็กๆ และฟังเพลงกวางตุ้งด้วย (พูดกวางตุ้งอีกแล้ว) ผมดูละครฮ่องกงทุกวันเลย แต่ไม่ดูที่พากษ์ด้วยนะ ผมดูแค่ที่เป็นเสียงกวางตุ้งจริงๆ เพราะถ้าพากษ์มันจะเสียความรู้สึกไปน่ะ ผมจำละครเรื่อง Carol Dodo Cheng และใครสักคนเล่นได้ (ใช่เรื่อง Doyo Wong? หรือ War of the Genders หรือปล่าว) "ใช่แล้วฮะ แล้วก็มีประโยคในหนังเรื่องนี้ด้วยอ่ะ แต่ผมลืมมันแล้ว" (So what? ใช่มั้ย) "ใช่แล้วๆ So what จริงๆนั้นล่ะ" ภาษากวางตุ้งของจุนดีมาก ถ้าจะนับว่าเค้าเรียนรู้มาจากทีวี


จุนบอกว่าเขาไม่รู้ว่าเค้าชอบผู้หญิงแบบไหนที่เขาจะชอบ เพราะว่ามันขึ้นอยู่กับความรู้สึกมากกว่า ในขณะที่อวี่เจ่อรู้ว่าเขาชอบผู้หญิงแบบไหน "ผมชอบคนที่ตาน่ารักๆฮะ แล้วก็ผู้หญิงที่ชอบหัวเราะ เพราะว่าผมขรึมเกินไป ผมเลยชอบผู้หญิงที่ชอบหัวเราะและยิ้มแย้มแจ่มใส่ ผมคงจะรู้สึกดีกับรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเธอ ในแบบบุคคลิกผมชอบคนที่ไม่เสแสร้งและมีเล่ห์กลเยอะนัก ผมชอบคนตรงๆและกล้าพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา ผมหวังจะมีความรักในแบบที่เรียบง่าย ไม่บ้าคลั่งหรือซับซ้อนมากมาย น่าเบื่อออก ผมชอบผู้หญิงที่ชอบปาร์ตี้และเล่นสนุกไปเรื่อยๆด้วยนะ”


สิ่งที่อวี่เจ๋อต้องการตอนนี้คือความสัมพันธ์และสามารถหาใครสักคนที่เขาสามารถแบ่งปั
นความรักและใช้ใช้ชีวิตด้วย แต่เพราะเขาไม่เคยคบใครได้นานเลย คนเลยเริ่มจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับเขาและต้าตงว่ากำลังมีความสัมพันธ์ที่น่าสงสัย

"ผมกับต้าตงเนี่ย อีกไม่นานคงถูกมองว่าเป็นคู่รักกัน ไม่ว่าจะเป็นตอนเล่นเรื่อง จงจี๋อี้ปัน (KO ONE) หรือฮวาหย่างฯ เรามักจะอยู่ด้วยกันเสมอ แถมเราก็ไม่มีแฟนกันทั้งคู่ ทุกคนเลยเอาแต่ถามว่าเราเป็นเกย์หรือปล่าว และหลายๆคนก็คิดว่าเราเป็นด้วย ! แล้วตอนไปถ่ายเรื่องฮวาหย่างฯ พวกเราก็พักห้องดียวกันอีกตะหาก แต่ยังไงก็ตาม ผมอยากจะเจอใครสักคนที่จะมาเป็นแฟนผมจริงๆสักที อย่าเข้าใจผมผิดสิ" ตอบคำถามได้ชัดเจนและเปิดกว้างขนาดนี้ คงไม่มีใครกล้าคิดว่าเขาเป็นเกย์อีกแล้วล่ะ

เกลียดการถ่ายละคร

การเข้ามาสู่วงการบันเทิงของอวี่เจ่อไม่ต่างจากจุนนัก เขาเริ่มต้นจากการเป็นนายแบบเหมือนกัน และก็ถ่ายละครวัยรุ่น ที่ต่างกันก็คือ จุนโด่งดังขึ้นมาทันทีหลังจากละครเรื่องแรก อีกอย่างที่ต่างกันก็คือ นอกจากที่อวี่เจ๋อไม่ได้โด่งดังมากมายหลังจากละครเรื่องแรกของเขา “Nine Balls,” เขายังเริ่มที่จะเกลียดการแสดงและการถ่ายละคร "เพราะว่าผมไม่รู้ว่าจะแสดงยังไงฮะ และการแสดงของผมมันก็แย่มากจนผมทนดูไม่ได้เลย ผมว่าผมดูน่าเกลียดอ่ะ และหลังจากนั้นผมเลยเกลียดการถายละคร ผมมักจะถามตัวเองเสมอว่าเราทำอะไรประหลาดๆแบบนี้เนี่ย แต่ว่าผมเองเป็นคนไม่ชอบยอมแพ้ พอละครเรื่องที่สองผมเลยศึกษาและดูหนังหลายเรื่องมากเพื่อจะดูว่าบทของผมควรเป็นยังไ
ง หลังจากนั้น ผมเลยเริ่มจะมีความสุขกับการแสดงและถ่ายละคร”

ก่อนหน้าจะมาสู่วงการนี้ อวี่เจ่อเป็นนักเรียนและทำงานพาร์ตไทม์ ก่อนหน้านั้นมีหลายสังกัดที่อยากจะได้เขาเข้ามาในสังกัดของตน แต่อวี่เจ๋อเห็นว่าบริษัทพวกนั้นโกหกและไม่น่าเชื่อถือ จนกระทั่งเขามาเจอบริษัทที่เขาอยู่ในปัจจุบัน "เพราะว่าเขาป็นช่องทีวี ผมเลยเชื่อถือพวกเขาตอนที่เข้าไปเคสงาน"

ก่อนจะเข้ามาสู่วงการนี้ อวี่เจ๋อคิดว่ามันคงสนุกดี มีแต่ความสุข เขาได้ตั้งความหวังไว้สูงมาก แต่พอเข้ามาในวงการแล้ว เขาพบว่ามันแต่งไปจากที่คิดไว้มากมาย

“มันไม่ใช่ว่ามันไม่มีความสุขนะฮะ มันก็สนุกดี แต่ว่ามันก็มีความเครียดมาก ต้องเข้าไปมีส่วนร่วมและเข้าใจหลายๆอย่าง คนข้างนอกไม่มีทางเข้าใจหรอกฮะ พวกเขาเห็นแต่ด้านสวยงามเท่านั้น พวกเขาเห็นเราแต่งตัวดี มีรูปลักษณ์ที่ดี พวกเขาไม่มีทางรู้หรอกว่ามีอะไรที่เราต้องทำเบืองหลังทั้งหมดนั้น

สร้างกรอบปกปิดตัวเอง

ในฮวาหย่างฯ บทของอวี่เจ๋อนั้นต้องแสดงความขรึมและเป็นพี่ใหญ่ ไม่อยากให้ใครมองเห็นความจริงที่เขามีความอ่อนแอและมีส่วนที่เปราะบางซ่อนไว้ภายในแล
ะที่สำคัญเป็นเสือผู้หญิงด้วย

อวี่เจ๋อบอกว่า บทนี้มีส่วนคล้ายกับเขา "ตั้งแต่เด็กแล้วฮะ ผมมักจะเป็นคนที่สร้างกรอบปกปิดตัวเองเสมอ ผมไม่มีความมั่นใจ เก็บตัวและพูดไม่เก่ง เพื่อที่จะปกปิดตัวเองเอาไว้ ผมจะทำให้ภายนอกของผมดูขรึม แต่ว่ามันไม่ใช่ว่าพอผมเข้าวงการแล้วจะเปลี่ยนไปได้เยอะหรอกฮะ เพราะว่ามันยากมากที่จะเข้ากับใครได้ถ้าคุณเป็นคนแบบผม แต่ว่าทุกคนก็พยายามสอนหลายๆอย่างกับผม ทำให้ผมค่อยๆเปิดตัวเองมากขึ้น”

ในช่วงของการโปรโมทละครเรื่องฮวาหย่างฯ อวี่เจ่อได้ร้องเพลงใหม่ของเขา “You’re the one I still love.” ไอดอลคนนี้กำลังเริ่มอาชีพใหม่ของเขาในฐานะนักร้อง "อันที่จริงแล้ว ตั้งแต่เข้ามาในวงการนี้ สิ่งที่ผมต้องการทำมากที่สุดคือการร้องเพลงและเต้นรำ แต่ผมเริ่มงานจากการแสดงก่อน พอผมบอกบริษัทของผม เขาก็เตรียมให้ผมมีอัลบั้มเดี่ยวฮะ" ด้วยการแสดงบนเวที เขาทำได้ค่อนข้างดีทีเดียว ทำไมถึงต้องกังวลอยู่อีกล่ะ

“ผมไม่ได้เป็นกังวลอะไรสักหน่อย แต่ว่าทำไมพิธีกรต้องใช้มุขนี้ด้วยล่ะ ตอนแรกผมไม่อยากจะรองเพลงโดยไม่มีดนตรี แต่จุนที่อยู่ข้างๆผมเอาแต่คอยถามอยู่นัน้ล่ะว่า "นายพร้อมปล่าวๆ" ผมเลยไม่มีทางเลือกได้แต่ร้องออกไป ผมก็แค่กลัวว่าจะมีการแกล้งอะไรผมหรือปล่าวน่ะ" ทั้งเขาและจุนต่างเป็นคนที่ไม่กลับกับการที่จะให้คนอื่นรู้จักพวกเขาที่แท้จริงหลังก
ล้องเลย. (ประมาณว่าเล่าความจริงทุกอย่างให้ฟังโดยไม่ห่วงภาพพจน์เลยน่ะ)

ไม่เพียงแค่ใช้เวลาอยู่ในฮ่องกงแค่ ๓๖ ชม เท่านั้น ตารางงานของพวกเขายังเต็มแน่นและเป็นความลับอีกต่างหากพวกเขาต้องเข้าร่วมงานสองงาน รับการสัมภาษณ์สามงานและสัมภาษณ์นิตยสารสามงาน บวกกับแฟนมากมายที่ตามไปทุกที่ๆพวกเขาไป ความฝันที่จะได้ออกไปเนเล่นภายนอกได้ถูกปิดตายลงทันที

พอออกไปไหนไม่ได้ พวกเขาสองคนเลยได้แต่พยายามสนุกกับการทำงานของตน พวกเขาถ่ายรูปแฟนๆและพูดคุยกับนักข่าว ถามถึงร้านอาหารที่อร่อยๆในฮ่องกง

พอเห็นถึงความน่าสงสารของพวกเขา นักข่าวเลยถามว่าพวกเขาอยากกินอะไร และพวกเขาจะได้พาสองหนุ่มไปในวันรุ่งขึ้น พอได้ยินเรื่องอาหาร ตาของทั้งสองก็เบิกกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอู๋จุน แถมยังถามกลับด้วยวา เราโกหกหรือปล่าว แล้วเราจะโกหกทำไมกันล่ะ

พอเช้าวันต่อมา ตอนจุนเห็นนักข่าว คำทักทายแรกของเขาไม่ใช่อรุณสวัสดิ์ แต่เป็น "ขนมมันแกวของผมอยู่ไหนล่ะ" นักข่างยังระบุด้วยว่า จุนไม่เพียงแต่ชอบการกินเท่านั้น จุนยังสามารถกินได้เรื่อยๆโดยไม่มีการหยุดด้วย


Translated by m1ss @ http://asianfanatics.net
Thai translation by Gwenny or แมวจรจัด
แม่นางฮวาจิน
[ 19-02-2008 - 11:54:36 ]







[Old News] Hana Kimi Promote @ Hong Kong

เนื่องจากแฟนต่างตื่นเต้นมากเมื่ออู๋จุนและอวี่เจ๋อมาถึงฮ่องกง ทั้งคู่ได้ตกอยู่ในใจกลางของความยุ่งเหยิง หน้าของพวกเขาต่างซีดเผือกและเหงื่อตก ในขณะที่เหลือแฟนอีกเพียงครึ่งเดียวรอรับเอลล่า (ไม่ชอบนักข่าวเขียนข่าวแบบนี้เลยแฮะ ว่าแต่จุน พี่ถัง ทนหน่อยเถอะนะ ตอนเค้าไปตะลุมบอนกับสาวๆกง เค้าก็ถอยหนีอ่ะ สาวๆแถวนั้นน่ากลัวมากมาย เห็นเจ๊ๆตั้งวง เค้าก็ถอยกรูดแล้ว ไม่เคยเห็นใครรอดมาได้ด้วยความปลอดภัย ยกเว้นไม่ดังจริง ชนิดเดินผ่านไปชาวบ้านยังถามเลยว่า ใครว่ะ ไม่เอ่ยนามนะ เด่วจะกระทบกระทั่งกัน)


มีแฟนประมาณ 200 ร้อยคนรอจุนและอวี่เจ๋อที่สนามบิน และมีการ์ดเพียงแค่ 10 คนเท่านั้น (น้อยไปว่ะ การ์ดแค่นี้จะกันอะไรได้ หนที่แล้วยังเยอะกว่านี้เลย แต่แฟนแค่ 200 ก็น้อยกว่าหนก่อนอีกสงสัยไปเข้าแถวกันหมด) พอจุนกับอวี่เจ๋อปรากฏตัว แฟนของพวกเขาก็ตกอยู่ในความโกลาหลและรีบร้อนกันวิ่งออกมา ทำให้การ์ดต้องตั้งกำแพงมนุษย์กั้นไว้ โชคร้ายที่มันกลายเป็นการต่อสู้แบบ 1 ต่อ 20 ทำให้การป้องกันไม่ประสบความสำเร็จนัก แฟนๆต่างล้อมรอบพวกเขาไว้ ทำให้เป็นสถานการณ์ที่ลำบากมาก


เนื่องจากฮวาหย่างเส้าเนียนเส้านู่กำลังจะได้ออกอากาศทางสถานีของฮ่องกง เอลล่า อู๋จุนและอวี่เจ๋อได้ถูกเชิญให้มาฮ่องกงเพื่อโปรโมทละครของพวกเขา และมีแฟนที่ไปที่งานล่วงหน้าถึง 2 วันเพื่อจองที่ๆดีที่สุดสำหรับพวกเขา เพื่อที่จะเข้าใกล้ขวัญใจของพวกเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ อย่างไรก็ตามแฟนที่สนามบินต่างได้เติมเต็มความใฝ่ฝันของพวกเขาก่อน เพราะพวกเขาได้ติดไปกับจุนและอวี่เจ๋อในการต่อสู้ ที่ไม่สามารถจะหลบเลี่ยงได้ ทำให้พวกเขาได้ใกล้ชิดกับขวัญใจของพวกเขาอย่างแท้จริง (เด็กดีไม่ควรเอาอย่างนะคะ)

มีแฟนที่ให้ของขวัญกับพวกเขาและพยายามที่จะจูบพวกเขา จุนไม่ได้เตรียมที่จะหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ถูกลวนลามโดยแฟนๆแบบนี้(โดยเฉพาะหน้าอก) เขาได้แต่หลับตาและปล่อยให้ผู้คนนำทางเขาไป (แหม๋ น่าจะไปจูงหลบการ์ดมาเล่นซ่อนหากันเองสองคน กร๊าก) และการ์ดต้องตะโกนจนเสียงแหบไปเลย แม้ว่าอวี่เจ๋อจะไม่สามารถช่วยอะไรได้ แต่เขาก็พยายามจะบอกให้แฟนๆอย่างขยับ ในสภาวะราวกับป่า มีแฟนที่หกล้มในระหว่างการตามพวกเขาด้วย แถมยังมีพวกข้าวของอย่างรองเท่าตกเกลือนกลาดเต็มไปหมด (ขอแอบเล่า การ์ดกงมันดุมาก เค้าเคยแต่มองห่างๆ เคยเห็นกระชากเสื้จากอหลังคอแล้วเหวี่ยงทิ้งเลยล่ะ เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆเองด้วยล่ะที่ถูกเหวี่ยงอ่ะ)


ผู้จัดกิจกรรมต่างได้เตรียมพร้อมกับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ก็เลยเตรียมการ์ดไว้พร้อมสรรพ เพื่อแยกจุนและอวี่เจ๋อตอนที่พวกเขามาถึง รร เพื่อที่จะทำให้แฟนลดน้อยลงไป พอจุนถูกพลักเข้าไปในลิฟท์ เขาถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอกและป้ายเหงื่อที่ท่วมตัวออก และแสดงให้เห็นสีหน้าที่สุดจะตกใจออกมา (ขอโทษนะ สงสารก็สงสาร แต่ขำอ่ะ เหมือนตอนดูอี้ไป่เฟินไป่แล้วจุนโดนแกล้งอ่ะ ยังไงก็ขำ กร๊ากกกกกกกกก ) ตอนที่ไปที่ลานจอดรถ ระยะทางเพียงสั้นๆแค่ 15 นาทีแต่พวกเขาต้องรีบข้ามถนน อย่างเร็ว และตำรวจต้องมาเข้าควบคุมสถานการณ์ พอทั้งคู่ขึ้นรถ แฟนก็ขึ้นรถตามพวกเขาทันทีเหมือนกัน (คือถ้าใครเคยไปฮ่องกง ดาราทุกคนที่มาฮ่องกง ต้องออกทางปรกติธรรมดาไม่มีทางพิเศษให้สำแดงความเป็นเทวดา .... ทุกคนต้องออกมาคาอยู่ที่บันไดที่ชั้นสองเพื่อเดินลงมารอรถที่จะมารับ ซึ่งตรงนี้ล่ะด่านมหาเซียน วิ่งได้ไวก็รอดตัว วิ่งได้ช้าก็ สารพัดของขวัญที่แฟนจะปาใส่หัว และอาจจะเจอการ์ดแตกขบวนวิ่งถลาออกมาไล่จับล่ะ เท่าที่เคยดูสนามบินฮ่องกง เคยแตกสุดๆสามรอบ หนึ่งตอนเอฟโครตดัง ตอนเฟยหลุนไห่ไปฮ่องกงครบหน้าครั้งแรก ไปกับตอนนี้ล่ะ เหอเหอ )


ไฟลท์ของเอลล่ามาสายไปครึ่งชม แต่ก็ยังต้องมีการ์ดคอยดูแล และการ์ดก็ยังไม่สามารถจัดการกับแฟนที่เหลือได้ ทำให้เอลล่าต้องถูกล้อมอย่างช่วยไม่ได้โดยแฟนๆ แต่ยังไงก็ตามเอลล่ายังสุภาพและโบกมือให้กับพวกเขาอย่างยินดี (เนี่ยสิ มืออาชีพ)

original source from Mingpoa

translated by inebriated.@ http://asianfanatics.net

แปลโดย เกวนนี่
แม่นางฮวาจิน
[ 19-02-2008 - 11:55:25 ]







อู๋จุนและอวี่เจ๋อพบแฟน 200 คนก่อนบินกลับไทเป

อาทิตย์ที่ 11 มีนาคม 2007

http://ol.mingpao.com/
http://www.asianfanatics.net
translations by xbunnylicious
Thai Translated by da LiTtlE DeViL

ก่อนที่จะบินกลับไต้หวัน อู๋จุนแห่งวงฟาเรนไฮต์และถังอวี่เจ๋อได้เข้าร่วมงานพบปะแฟนๆ ซึ่งมีแฟนๆ มา 200 คน นอกจากแฟนๆ ฮ่องกงแล้วยังมีแฟนๆ จากไทเป กวางโจว เซินเจิ้นและสิงคโปร์เข้าร่วมด้วย เพื่อที่จะติดตามตารางเวลาของพวกเขาแล้ว ว่ากันว่าแฟนบางคนได้ใช้เงินอย่างมากมายไปในการจองห้องในโรงแรมชั้นเดียวกับที่ไอดอล
ของพวกเขาพัก

ในระหว่างการเล่นเกมเก้าอี้ดนตรี อู๋จุนใช้ภาษากวางตุ้งเตือนแฟนๆ ให้ระวังมิฉะนั้นก้นอาจของพวกเขาจะเจ็บได้ (-_-”) อวี่เจ๋อได้นวดไหล่แฟนสาวๆ ที่เล่นโบวลิ่ง ทันทีที่ทั้งคู่เดินเข้าไปใกล้แฟนๆ เพื่อถ่ายรูป ความโกลาหลก็เกิดขึ้น แฟนๆ ที่ยืนอยู่หลังแผงกั้นคลุ้มคลั่งและสัมผัสพวกเขาไปทั่วทั้งตัว แต่ทุกคนก็สงบลงได้เมื่ออู๋จุนบอกพวกเธอให้หยุดดันกัน

อู๋จุนและอวี่เจ๋อไปถึงสนามบินตอน ทุ่มนึงพร้อมกับแฟนๆ กว่าร้อยคนไปรอที่จะส่งพวกเขาอยู่ ในขณะเดียวกัน แวนเนส F4 และ Charlie Yeung กำลังจะออกเดินทางไปแอฟริกาตะวันออก โดยมีแฟนๆ ไม่กี่คนเท่านั้นที่มาส่งพวกเขา (หุหุ-เวลาเดียวกันเลยด้วยนะ เพิ่งไปเช็คในรูมา) อู๋จุนและอวี่เจ๋อถูกรุมล้อมและต้องใช้การ์ด 10 คนเพื่อที่จะกันแฟนๆ ออกไป พวกเขาต้องใช้เวลา 5 นาทีจนในที่สุดก็ไปถึงเกทได้ แฟนๆ เริ่มที่จะผลักกันเองและของขวัญจากพวกเธอก็หล่นเกลื่อนไปแทบทุกที่บนพื้น แฟนๆ บางคนนั่งลงและร้องไห้กับพื้น คงเป็นเพราะพวกเธอได้เข้าไปใกล้กับไอดอลของเธอมากนั่นเอง (เรอะ นึกว่าร้องเพราะเข้าไม่ถึง)

แม่นางฮวาจิน
[ 19-02-2008 - 11:58:18 ]









แม่นางฮวาจิน
[ 19-02-2008 - 12:02:17 ]









TonGirlz is Vip
[ 19-02-2008 - 12:03:20 ]







ดีค่ะ

แวะมาเยี่ยมค๊า

ฝากบอร์ด BB ด้วยน่ะค่ะ

http://www.showwallpaper.com/view.php?topic=4331
ต้องสมัครเป็นสมาชิกและ login เข้าสู่ระบบก่อนถึงจะสามารถลงความเห็นได้

เว็บนี้มีการใช้งาน cookie
ยอมรับ
ไม่ยอมรับ