Jung Ji Hoon .FC Board # 2 พลพรรครัก"เรน" ทางนี้เลยค่ะบอร์ดนี้เป็นที่ที่เราอัพทุกอย่างที่เป็นเรนที่

Apple
[ 10-10-2006 - 18:40:16 ]







pui
[ 10-10-2006 - 18:55:51 ]







สุดยอดบทสัมภาษณ์ประวัติศาสตร์ของพี
10/10/48 (ค่อนข้างยาวแต่พลาดไม่ได้ค่ะ)



tempura : หมายเหตุก่อนอ่าน......
- ครบรอบ 1 ปีพอดีหลังจากวันที่สัมภาษณ์ไปค่ะ มาดูกันค่ะว่า 1 ปีผ่านไป พียังเป็นพีคนเดิมอยู่รึป่าว
- บทสัมภาษณ์นี้น่าจะเป็นการแปลจากภาษาเกาหลีมาอีก (หรืออาจจะจากเกาหลีเป็นจีน แล้วถึงเป็นภาษาอังกฤษอีกที) คนแปลแต่ละภาษาอาจจะมีความเข้าใจในสิ่งที่เค้าสื่อออกมาต่างกันบ้างนะคะ บางประโยคที่เป็นภาษาอังกฤษก้อมาแบบขาดบ้างเกินบ้าง บางส่วนเราเลยสรุปหรือเติมไปตามที่คิดว่ามันควรจะเป็นค่ะ
- ใครที่อ่านแล้วรู้สึกว่าน่าจะแก้ไขตรงไหน แนะนำกันได้นะคะ เพราะอาจจะมีที่เราเข้าใจผิดหรือแปลผิดไปบ้างน่ะค่ะ



ถ้าพร้อมแล้ว....ลุยกันเลยค่ะ!!!


แนะนำหนุ่มพี ชอง จีฮุน (ฉบับปรับปรุง!)

ขอบคุณ Grace, NY USA และ Genevieve @ fanrain

มันเป็นเรื่องที่เสี่ยงอยู่เหมือนกันในการที่จะเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในประเทศเกาหลี แน่นอนว่ามันต้องมีข่าวเรื่องอื้อฉาวของบุคคลที่มีเสียงเหล่านั้นอยู่แล้วใช่มั๊ยหละคะ แต่หากมองจากประเทศอื่น ๆ แล้ว ฉันไม่คิดว่าจะมีที่ไหนที่จะขุดคุ้ยเรื่องชีวิตส่วนตัวของดาราได้มากเท่ากับที่เกาหลีอีกแล้วหละค่ะ และคำวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องพวกนี้ก็ถือเป็นจุดเล็ก ๆ ที่สามารถจะส่งเสริมหรือทำลายชื่อเสียงของดาราเหล่านั้นไปได้ตลอดกาลเลยทีเดียว แน่นอนว่าประเทศอื่น ๆ ก็คงเป็นเหมือนกัน มันมีทั้งปาปารัซซี่ และคนประเภทที่ว่าจะซอกแซกเรื่องชีวิตส่วนตัวดาราเป็นอาชีพ แต่ว่าในประเทศเกาหลี ทุกคนจะรับรู้และมีส่วนร่วมในเรื่องเหล่านี้ได้ผ่านทางอินเตอร์เนท ดังนั้น ฉันจึงสนใจว่า ดารานักร้องหนุ่มวัย 20 กว่า ๆ ผู้โด่งดัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นคนที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ชนิดที่ว่า รายการ ?Talk Asia? ของ CNN ได้เชิญไปให้สัมภาษณ์ในรายการ เค้ามีความเห็นต่อ ?อาชีพดารา? ของเค้าอย่างไร และเค้าวางแผนชีวิตเค้าเองอย่างไรบ้าง ฉันตัดสินใจที่จะรบกวนเวลาว่างที่มีอยู่น้อยนิดของเค้าเพื่อหาคำตอบให้กับคำถามเหล่านี้ เชิญสัมผัสกับตัวตนของผู้ชายที่ชื่อ ชอง จีฮุน กันได้เลยค่ะ



วัน/เวลา : 10 ตุลาคม 48 เวลาเที่ยงคืน ? ตี 1
สถานที่ : งานเลี้ยงหลังจากจบคอนเสิร์ตเรนนี่เดย์ที่ฮ่องกง


L : ขอฉันเริ่มต้นด้วยคำถามนี้นะคะ ... ในขณะที่ต่างประเทศกำลังให้ความสนใจกับ ?นักร้องหนุ่มเรน? แต่ในประเทศเกาหลีเองกลับกำลังให้ความสนใจกับ ?นักแสดงหนุ่ม ชอง จีฮุน? จากเรื่อง ALTK ช่วยบอกหน่อยเถอะค่ะว่าคุณรู้สึกอย่างไรบ้างกับละครเรื่องนี้คะ


พี : เรื่อง ALTK เหรอครับ อืม...มันเป็นเรื่องราวของความรักและการแก้แค้นครับ มันเกี่ยวกับผู้ชายคนนึง ซึ่งรักผู้หญิงคนหนึ่ง และผู้หญิงคนนั้นก็รักเค้ามากเช่นกัน แต่พ่อแม่ของฝ่ายหญิงบังคับให้ทั้งคู่เลิกกันและก็เกิดความเข้าใจผิดกันขึ้นระหว่างคนทั้งสอง แต่ทั้งคู่ก็ยังคงรักอีกฝ่ายอยู่ ต่อมาฝ่ายชายเกิดอุบัติเหตุตกจากตึกจนอาการโคม่าต้องนอนเป็นอัมพาตอยู่ในโรงพยาบาล เรื่องราวต่อไปจึงเกี่ยวกับการแก้แค้นของน้องชาย ซึ่งก็คงจะมีคนที่ดูแล้วทั้งชอบและไม่ชอบน่ะครับ มันขึ้นอยู่กับความเห็นส่วนตัวของพวกเค้า แต่สำหรับผมแล้ว ผมรู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้แสดงให้ผู้ชมได้เห็นในอีกบทบาทนึง และผมมีความมั่นใจมากว่ามันจะต้องประสบความสำเร็จครับ


L : เรื่องสนุก ๆ อีกเรื่องที่เราต้องให้ความสนใจก็คือ ในละครเรื่อง Full House คุณสวมบทบาทเป็นดาราผู้มีชื่อเสียง ในขณะที่ตัวคุณเองก็มีชื่อเสียงเหมือนกัน คุณอาจบอกว่ามันเป็นส่วนสำคัญในการสร้างละครเรื่องนี้ให้สมบูรณ์ เหมือนกับในเรื่อง ?Sang Doo, Let?s Go to School? และในขณะที่ผู้ชมกำลังจะติดภาพตัวละครทั้งสองตัวที่คุณแสดงได้อย่างสมบทบาทนั้นไป คุณกลับล้างภาพเหล่านั้นไปด้วยการรับบทเป็นผู้ชายเกเร เป็นนักเลงหัวไม้ นี่มันไม่ใช่ตัวเลือกที่ธรรมดาเลยนะคะ จีฮุนคะ คุณกำลังมองหาอะไรอยู่ และคุณตัดสินใจมารับบทนี้ได้อย่างไรคะ?


พี : ตัวผมเองไม่เคยต้องการที่จะทำงานเพื่อเงินเลยครับ แต่มันก็ออกจะโชคไม่ดีตรงที่ว่าบางครั้งการทำงานมันก็ต้องเป็นไปตามครรลองของมัน แต่ผมรับงานนี้ (แสดงเป็นบ๊อกกุ) เพราะว่าผมต้องการที่จะแสดงครับ และหากต่อไปผมได้มีโอกาสแสดงภาพยนตร์แล้วหละก็ ผมก็ไม่ได้ต้องการที่จะทำมันเพื่อเงินเหมือนกันครับ ผมแค่ต้องการทำในสิ่งที่ทำให้ผมมีความสุข สิ่งที่ทำให้คนที่สนับสนุนผมคิดว่า ?อ๊า เรนมีพัฒนาการในการแสดงจนสามารถแสดงบทนั้นได้แล้ว? ต่างหากหละครับ ผมสามารถแสดงให้ทุกคนเห็นถึงความเป็นนักแสดงคุณภาพในฐานะนักร้องและในด้านอื่น ๆ ได้ ถึงตอนนี้แล้วเงินไม่ใช่ปัจจัยสูงสุดในชีวิตของผมครับ มันมีอะไรต้องทำมากไปกว่าการสร้างความภูมิใจให้กับตัวเองแล้วหละ ความมั่นใจในตัวเองต่างหากหละครับที่สำคัญ ถ้าหากงานไหนให้ผมได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่แล้วหละก็ นั่นต่างหากที่สำคัญสำหรับผม

L : ถ้าอย่างนั้นการเป็น เรน ในฐานะนักร้อง มีส่วนในการสร้างภาพ ชอง จีฮุน ในฐานะนักแสดง ได้มากน้อยแค่ไหนคะ?


พี : มันคงไม่ใช่เป็นการสร้างภาพหรือมีจุดร่วมอะไรกันหรอกนะครับ ผมแค่มีความสุขมากที่สามารถทำสองสิ่งที่ผมสนุกกับมันได้พร้อม ๆ กัน ผมไม่ต้องพูดว่าผมต้องทำสิ่งนี้ เพราะผมเคยทำมันมาก่อน หรือเพราะผมเคยทำสิ่งนี้ ผมถึงต้องทำมันอยู่ตอนนี้ ผมมีความสุขเพราะผมสามารถทำอะไรก็ได้ที่ผมต้องการจะทำ ผมไม่ได้วางแผนอะไรเลยครับ


L : คุณไม่เคยเข้าคลาสการแสดงเลยใช่มั๊ยคะ?


พี : ไม่ครับ ผมไม่เคย


L: ถ้าอย่างนั้นคุณเรียนรู้เรื่องการแสดงด้วยตัวคุณเองได้อย่างไรคะ?


พี : การแสดงเป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้ครับ คุณต้องเรียนรู้ว่าจะแสดงได้อย่างไร คุณไม่สามารถเรียนรู้การแสดงจากแค่ในห้องเรียนหรอกครับ จริง ๆ แล้วคุณจะไม่เคยได้เรียนรู้ว่าจะแสดงอย่างไรหรอกครับ เพราะถ้าคุณยึดติดอยู่กับบทเรียนที่คุณเรียนมา มันก็จะเป็นแค่การเลียนแบบคนอื่นเท่านั้นเองครับ และผมว่านั่นก็ไม่ได้เรียกว่าเป็นสไตล์การแสดงเฉพาะตัวของคุณหรอกจริงมั๊ยครับ มีบางคนเคยถามผมนะว่า ?คุณไม่เรียนการแสดงบ้างเหรอ?? คำตอบคือไม่ หรือ ?คุณไม่คิดว่าคุณควรจะเข้าคลาสเรียนการแสดงซักหน่อยเหรอ?? คำตอบก็คือไม่เหมือนกันครับ ไม่ทั้งหมดนั้นแหละ ผมพอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้ ซึ่งบางคนอาจจะไม่ได้คิดอย่างนั้น ผมว่าปล่อยให้เป็นสิ่งที่ผู้ชมจะตัดสินดีกว่าครับ ผมพูดและแสดงไปตามที่ผมรู้สึกว่ามันควรจะเป็นเท่านั้นเองครับ


L : งั้นก็ถือได้ว่าการแสดงของคุณมาจากสัญชาติญาณใช่มั๊ยคะ คุณคิดว่าอะไรคือส่วนสำคัญที่สุดในการแสดงหละคะ?


พี : ความจริงใจน่ะครับ


L : แล้วตัวละคร คัง บ๊อกกุใน ALTK มีความจริงใจที่คุณกำลังพูดถึงนี่หรือเปล่าคะ? คุณคิดว่าตัวละครตัวนี้มีลักษณะอย่างไรบ้างคะ?


พี : (tempura : ส่วนนี้ภาษาอังกฤษเรางงคำที่เค้าใช้มากค่ะ มันดูขัด ๆ กันยังไงไม่รู้ เราขอแปลตามที่เรามองบทนี้ของพีไปเลยละกันนะคะ) คัง บ๊อกกุเป็นคนที่ดูเหมือนจะโหด...มมาก ๆ เลยครับ เค้าเป็นนักสู้ที่พร้อมจะฆ่าศัตรูได้ทุกเวลา แต่เค้าก็พร้อมที่จะเสียสละทุกอย่างให้กับผู้หญิงคนหนึ่งที่เค้ารัก (tempura : ประเภทปากไม่ตรงกับใจน่ะค่ะ) และในท้ายที่สุดแล้วคุณจะรู้สึกเห็นใจและสงสารบ๊อกกุมากเลยหละครับ ผู้หญิงหลายคนอาจจะแปลกใจว่ามีผู้ชายประเภทนี้อยู่จริง ๆ เหรอ ผมต้องการที่จะแสดงความเป็น คัง บ๊อกกุออกมาให้ได้ครับ ส่วนบทของยง เจ น่ะ มันเป็นบทที่ค่อนข้างจะใกล้เคียงกับตัวผม แต่บทแบบคัง บ๊อกกุนี่มันจะให้อะไรกับผมกลับมามากกว่า นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงต้องการที่จะแสดงมันครับ


L : ดูเหมือนว่าคุณจะมีความมั่นใจมากเลยนะคะ


พี : แน่นอนครับ ผมมั่นใจมาก ๆ

L : คุณบอกว่าคุณไม่เคยเข้าคลาสการแสดงใด ๆ เลย แต่ดูเหมือนว่าคุณสามารถเรียนรู้ได้จากการดูภาพยนตร์และการแสดงอื่น ๆ ในขณะที่คุณกำลังสวมบทบาทนั้น เหล่านักแสดงมักจะมีต้นแบบของพวกเค้าในการแสดง คุณมีนักแสดงที่เป็นต้นแบบของตัวละครคัง บ๊อกกุใน ALTK หรือเปล่าคะ?

พี : แน่นอนครับ มีคำพูดประโยคนึงนะครับว่า การเลียนแบบเป็นบ่อเกิดของการสร้างสรรค์ทั้งมวล ผมคิดว่านั่นเป็นเรื่องที่มีเหตุผลนะครับ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อผมได้ดูการแสดงของ อัล ปาชิโน่ หรือ โรเบิร์ต เดอนีโร หรือนักแสดงท่านอื่น ๆ ที่มีสไตล์การแสดงคล้าย ๆ กันแล้ว ผมมักจะเกิดแรงบันดาลใจน่ะครับ อย่างตอนที่ผมได้ดูอัล ปาชิโน่ แสดงใน ?Scarface? ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับโลกของยาเสพติดในฟลอริด้า ตอนแรกสีหน้าของอัลจะไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย แต่คุณจะค่อย ๆ สัมผัสได้ความเปลี่ยนแปลงได้ทีละนิด ๆ ทั้งอารมณ์และความรู้สึก สิ่งเหล่านี้เองเป็นสิ่งที่ผมรู้สึกว่ามันช่วยผมได้มากในการแสดงเรื่อง ALTK น่ะครับ


L : ถ้าอย่างนั้น ขอกลับไปที่เรื่องเกี่ยวกับการแสดงอีกทีนะคะ ความจริงแล้วคือว่า ฉันสนใจในบทบาทการเป็นนักแสดง ชอง จีฮุน ของคุณ ก็เพราะฉากนึงในเรื่องซางดูน่ะค่ะ แต่ก่อนอื่นฉันอยากจะบอกว่า ฉันเคยคิดว่าคุณเป็นนักแสดงที่ดีสำหรับการเป็นนักร้อง.... แต่จุดเปลี่ยนความคิดนี้ก็คือฉากที่ว่านั้น ที่คุณเข้าฉากกับลี ดอง กันค่ะ ฉันจำไม่ได้แน่นอนนะคะว่าฉากไหน แต่ลี ดอง กันกำลังอยู่ในอารมณ์ที่เป็นทุกข์เพราะเค้าเพิ่งจะค้นพบความจริงบางอย่าง และซางดูก็เพิ่งจะกลับมาร่าเริงมาก ๆ ฉากนั้นซางดูก็เลยโบกไม้โบกมือไปมาล้อเลียน แล้วก็แกล้งดองกันน่ะค่ะ ตอนแรกฉันคิดว่าคุณแสดงนอกบทไปแล้ว แต่เมื่อฉากนั้นผ่านไปแล้ว ฉันถึงกับจุกอกเลยหละค่ะ คือฉันเพิ่งมารู้ว่าคุณไม่ได้แสดงให้เหมือนกับว่าคุณเป็นคนโง่ แต่คุณกำลังแสดงเพื่อกลบเกลื่อนว่าคุณรู้ว่ามันกำลังเกิดอะไรขึ้นตอนนั้น ซางดูรู้ว่าสถานการณ์ตอนนั้นของเค้าไม่สู้ดีเท่าไรนัก แต่เค้าก็รู้ดีกว่าเค้าต้องบังคับตัวเองให้ผ่านพ้นมันไปให้ได้ นั่นเป็นความรู้สึกที่ฉันรับรู้ได้ตอนนั้นค่ะ ส่วนในเรื่อง Full House ก็คล้าย ๆ กัน ตัวละครตัวนี้ยิ่งใหญ่มาก เป็นถึงดาราดัง แต่เค้ากลับรู้สึกเจ็บปวดกับชีวิตส่วนตัวของเค้า และความเจ็บปวดเหล่านั้นก็ได้รับการเยียวยาด้วยความรักในตอนจบ ดังนั้นนี่จึงเป็นจุดร่วมของตัวละครที่แตกต่างกันสุดขั้วของตัวละครทั้งสองตัวนี้ คุณเชื่อมั๊ยคะว่ามันมาจากประสบการณ์และความรู้สึกส่วนตัวของคุณเอง?


พี : ผมคิดว่าผมควรจะอธิบายให้คุณฟังซักนิดก่อนเกี่ยวกับเรื่องสไตล์การแสดงของผมนะครับ สิ่งนึงที่ผมสามารถพูดได้ก็คือ ความมั่นใจสูงสุดในการแสดงของผมนั้น คือการที่คนดูจะไม่เข้าใจว่าผมกำลังพูดถึงอะไรในตอนแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไปพวกเค้าจะเข้าใจในบทบาทนั้น ๆ ได้ เหมือนกับคุณนั่นแหละครับ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ผมถือว่าประสบความสำเร็จในการแสดงของผมแล้วหละครับ กับบท ซางดู นั้น เค้าทุกข์ทรมานมากครับ เพราะโบรี ลูกสาวของเค้าไม่สบาย และดองกันก็พบความจริงที่ว่าโบรีไม่ใช่ลูกสาวแท้ ๆ ของซางดู ในขณะที่ดองกันต้องการจะบอกซางดูเรื่องนี้ แต่เค้าก็ไม่สามารถทำได้ แต่ซางดูก็รู้ระแคะระคายบ้างเหมือนกัน ผมเลยคิดว่าถ้าเป็นตัวผมเอง ผมจะทำยังไง ผมไม่คิดว่าคนดูจะเข้าใจสถานการณ์นี้ได้หากผมแสดงท่าทางขึงขังและนิ่งเงียบ ในสถานการณ์แบบนี้ผมคิดว่าคนเราคงต้องการที่จะหลอกคนอื่น ๆ ให้แนบเนียนที่สุด ดังนั้นเค้าจึงทำตัวเอะอะมะเทิ่งและเฮฮาร่าเริงมากกว่าที่คนปกติเค้าจะทำกันกลบเกลื่อนไปน่ะครับ และเพราะว่าคนดูรู้อยู่แล้วว่าดองกันรู้ความจริง พวกเค้าก็จะสามารถเห็นอีกมุมหนึ่งของซางดู รวมผมไปถึงความคิดและความตั้งใจของเค้าด้วย ถ้าไม่พยายามคิดแบบที่ซางดูคิดให้ได้ และไม่ได้แสดงให้ผู้ชมเข้าใจ ผมคิดว่าเค้าก็จะไม่เข้าใจความรู้สึกเหล่านั้นหรอกครับ นี่คือสิ่งที่ผมเรียกว่า ความจริงใจ ไงหละครับ แม้แต่ในเรื่อง Full House ก็ตามที ผู้ชมอาจจะพูดว่า ?เฮ้, บทนี้นี่มันเป็นตัวเรนเลยนี่นา เรนกำลังแสดงอยู่แน่เหรอ? บทนี้เค้าเขียนมาเพื่อให้เหมาะกับเรนมากกว่า? แน่หละครับว่าต้องมีคนมากมายพูดแบบนี้แน่ ๆ แต่จริง ๆ แล้วสิ่งที่เค้าเห็นในตัวละครตัวนี้ มันมาจากการที่ผมใช้เวลาทั้งคืนเพื่อทำความเข้าใจกับตัวละครตัวนี้ให้ได้ว่าเค้ากำลังคิดอะไรอยู่ ผมใช้เวลาทั้งคืนเพื่ออ่านบทและคิดว่า ?อืมม... ฉากนี้ ถ้าผมแสดงแบบนี้มันจะดูเป็นธรรมชาติขึ้นรึป่าวนะ? และผมก็ยังกังวลว่าผมจะทำอย่างไรให้แสดงเข้าขากับเฮ คโย ได้ ความคิดและการแสดงทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ผมมองตัวละครยองเจใน Full House ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่หนุ่มไฮโซมีชื่อเสียงเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ต้องใช้ความรู้สึกสะกดความเจ็บปวดของตัวเอง นั่นเป็นวิธีที่ผมเข้าถึงบทบาทนั้นครับ


L : ฉันไม่รู้นะคะว่าคุณจะว่ายังไง แต่ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ ค่ะว่ามีคนพูดถึงบทบาทของคุณใน Full House แบบนั้นด้วยเหรอ ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าคุณจะรู้หรือเปล่า แต่ว่ามีแฟน ๆ บางคนของละครเรื่องนี้บอกว่า ทีมผู้สร้างและเหล่านักแสดงต้องมีการปรับปรุงบางส่วนของบทที่มันดูไม่เข้าท่ามาก ๆ ด้วยน่ะค่ะ


พี : อา...ผมเชื่อว่า Full House เป็นละครที่วิเศษมากครับ ทีมงานและนักแสดงทุกคนต่างก็ช่วยกันทำให้ละครเรื่องนี้ประสบความสำเร็จได้ ดังนั้นผมจึงหวังว่าผู้ชมจะเข้าใจสิ่งที่พวกเค้าทำมากขึ้นน่ะครับ ส่วนผู้กำกับของเราก็ให้อิสระกับเฮ คโย และผมในการแสดงและสามารถเล่นนอกบทได้เต็มที่เลยครับ ซึ่งก็มีส่วนช่วยในเรื่องการแสดงของเราอย่างมากเลยหละครับ


L : แต่คุณก็เข้าใจใช่มั๊ยคะว่าผู้ชมก็อาจจะรับรู้ความรู้สึกบางอย่างได้เหมือนกัน แน่นอนว่ามันเป็นผลมาจากการแสดงของคุณ ในขณะที่คุณยังเป็นนักแสดงหนุ่มอยู่นี่ แต่มันก็คงจะมีอุปสรรคอะไรบ้างเหมือนกันในบางครั้ง คุณรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้คะ?


พี : ผมเห็นด้วยครับ อืม...จะพูดยังไงดีหละครับเนี่ย? ตอนที่ผมเริ่มถ่าย Full House ครั้งแรก ผมเล่นทั้งตอน 1 และตอน 2 เลยครับ แต่ไม่ได้เป็นตัวของผมเองหรอกนะ อืม..คือว่าผมไม่ได้แสดงแบบเคอะเขินเลยนะ แต่ผมพยายามที่จะแสดงให้เห็นถึงลักษณะนิสัยของตัวละครที่แตกต่างจาก ซางดู น่ะครับ เพราะถ้าตัวละครใน Full House นี่เป็นแค่ตัวละครที่เรนกำลังพยายามแสดงออกมาให้เหมือนอย่างซางดูแล้วหละก็ ผมคิดว่าผู้ชมก็จะคิดว่ามันคือตัวละครตัวเดียวกัน นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมแม้ผมจะได้ยินมาว่าผมไม่สามารถแสดงบทนี้ได้ตั้งแต่แรก แต่ผมก็ยังคงพยายามอย่างหนักเพื่อให้การแสดงทั้งสองเรื่องนี้ต่างกัน ดังนั้นเมื่อเข้าสู่ตอนที่ 4 และ 5 แต่ละตอนที่ผ่านไป ผู้ชมก็จะคุ้นเคยกับการแสดงของผม นี่คือวิถีทางของผมและผมพยายามที่จะพัฒนาการแสดงตลอดเวลาครับ

L : แต่เมื่อคุณเปรียบเทียบระหว่าง นักแสดง ชอง จีฮุน และ นักร้อง เรน อย่างตรงไปตรงมาแล้ว พวกเค้าดูแตกต่างกันมากเลยนะคะ แต่คุณสามารถรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่เชื่อมโยงกันได้ใช่มั๊ยคะ ซึ่งสิ่งหนึ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนก็คงจะเป็นที่เราเห็นได้จากอัลบั้ม It?s Raining ดาราระดับนั้นจะค่อนข้างพอใจและทะนงตัว แต่ฉันกลับรู้สึกว่าคุณมีความตั้งใจอย่างมากจริง ๆ ทั้งในเรื่องการเต้นและการร้องเมื่อคุณอยู่บนเวที คุณทำให้รู้สึกว่าคุณกำลังบอกกับคนดูว่า ?เฮ้ นี่ผมเองนะ เรนไงครับ? และก็เชิดนิด ๆ เหมือนต้องการจะถามว่า คุณจะไม่ชอบผมได้ยังไงหละเนี่ยในเมื่อผมทำงานอย่างหนักก็เพื่อพวกคุณทุกคนนะ? นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงได้รู้สึกว่าคุณกำลังพยายามไปให้ถึงเป้าหมายที่คุณวางไว้ ฉันยังจำตอนที่ได้ดูเอ็มวี It?s Raining ได้อยู่เลยนะคะ ฉันรู้สึกได้เลยว่ามันจะต้องเป็นเอ็มวีที่ลืมไม่ลงแน่ ๆ เลย และเมื่อคุณปรากฏกายบนเวที คุณก็ใช้พลังที่มีทั้งหมดเพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับคนดูบนเวทีนั้น ๆ ได้ด้วยตัวคุณเอง นั่นคือที่ฉันมองว่าเป็นคาเรคเตอร์ของคุณค่ะจีฮุน ฉันคิดว่าคุณสร้างขีดจำกัดของคุณเอง แบบว่าเมื่อคุณอยู่ตรงนั้น คุณจะต้องก้าวข้ามมันไปข้างหน้าต่อไปอีกให้ได้


พี : อา....ผมดีใจมากเลยครับที่คุณถามคำถามนี้ขึ้นมา มันยากมากจริง ๆ แหละครับ จนบางครั้งทำเอาผมอยากตายไปเลยก็มีเหมือนกัน มันหนักจนบางทีผมรู้สึกเหมือนกับมีมีดมาเฉือนลึกลงไปถึงกระดูกหรือแทบจะกระอักเลือดออกมาเลยทีเดียวแหละครับ ผู้คนมักจะจับตามองว่าเรนจะทำอะไรต่อไป และเค้าชอบพูดว่า ?เอ๊...แค่นั้นเองเหรอ?? แต่ประเด็นคือ ก่อนที่ผมจะออกอัลบั้มชุดที่สอง มีคนเคยบอกกับผมว่า ?เฮ้! เรนก็ไปได้แค่นี้แหละ? (สบประมาท) แต่รู้มั๊ยครับว่าตอนนี้ยิ่งผมกลัวหรือท้อมากเท่าไหร่ ผมจะมองย้อนกลับไปแล้วบอกกับตัวเองว่า ?เฮ้! นายทำได้เท่านี้เองเหรอ จีฮุน? ไม่เอาน่า ทำไมทำตัวน่าอายยังงี้หละ ฮึ? แสดงให้พวกเค้าเห็นไปเลยสิว่านายเจ๋งแค่ไหน!? ผมไม่ได้ออกจากบ้านเป็นเดือน ๆ เลยนะ ขนาดตอนไปอเมริกา ผมก็ไม่ได้ออกไปไหนมาไหนเลย ผมเฝ้าคิดถึงกำแพงที่ผมต้องฝ่ามันไปให้ได้ คิดแต่ว่าจะทำยังไงถึงจะทำลายกำแพงภาษาให้ผู้คนคุ้นเคยกับเพลงและการเต้นของผมได้ ผมเคยคิดว่า ?อ๊า ทำไมนักร้องเพลงเต้นต้องเต้นตลอดเวลาด้วยหละ? ผมลองเป็นนายแบบดูบ้างก็ได้นี่นา ผมจะร้องเพลงทั้ง ๆ ที่ยืนอยู่กับที่นี่แหละ แล้วไหนลองใส่แว่นกันแดดหน่อยซิ ลองเปลี่ยนเสื้อผ้าบนเวทีดู แล้วก็ลองออกแบบการแสดงที่ใช้ชื่อ เรน เป็นส่วนประกอบดูบ้างซิ ที่สำคัญผมจะแสดงสดเท่านั้นครับ แม้ว่าผมจะกระอักเลือด, จับไข้, ล้มคว่ำลงไป หรือแม้กระทั่งตาย ผมก็ยังจะยืนหยัดอยู่บนเวทีครับ เพราะเมื่อผมเริ่มสวมแว่นกันแดดและยืนนิ่ง ๆ แล้ว โอ้วขอบคุณพระเจ้า มันเข้ากันได้ดีกับสไตล์เพลงของผม และทุกอย่างมันก็ออกมาดีจริง ๆ ครับ แต่ผมจะไม่หยุดอยู่แค่นี้หรอกนะครับ หนทางข้างหน้าที่ผมต้องก้าวเดินต่อไปมันยังอีกยาวไกลกว่าจะถึงจุดหมายน่ะครับ


L : ฉันคิดว่าความคาดหวังเป็นอะไรที่น่าดึงดูดใจมากค่ะ แต่ อืม...จะพูดยังไงดีหละคะ คือฉันเคยคิดว่าตอนที่ ?How to Avoid the Sun? ออกมาก็เป็นที่น่าสนใจมาก ๆ แล้ว แต่หลังจากที่ได้ดูเอ็มวี ?It?s Raining" แล้ว ฉันไม่คิดเลยว่าเรนจะสามารถประสบความสำเร็จกับเพลงที่ดังไล่กันมาอย่าง ?I do? ได้เลยนะคะ ยิ่งไปกว่านั้นฉันนึกไม่ออกเลยหละค่ะว่าจะมีเพลงไหนที่ทรงพลังไปมากกว่า ?It?s Raining? ออกมาอีกมั๊ย คุณคิดว่ายังไงบ้างคะ?


พี : แต่.....(ยิ้มมมมม) มันมีแน่นอนครับ


L : หืม? มีเหรอคะ?


พี : อืม จะว่ายังไงดีหละครับ ผมคิดไว้แล้วน่ะครับ ช่วงที่ผมทำอัลบั้ม ?It?s Raining? อยู่นั้น คนที่ได้ฟังจะพูดกันว่า ?เฮ้, คุณคิดอะไรอยู่น่ะ? มันไม่ดังหรอก? แต่เมื่อเค้าเห็นการเต้นและเอ็มวี พวกเค้ากลับชอบมันครับ ตอนนี้เพลงมีความสำคัญมากขึ้นนะครับ แม้แต่ในงานแถลงข่าวเมื่อวานนี้เราก็ยังพูดกันอยู่เลย ผมไม่ชอบทำอะไรที่เหมือนกับที่คนทั่ว ๆ ไปเค้าทำกันน่ะครับ ไม่ว่าอัลบั้มจะได้รับการตอบรับที่ดีหรือไม่ก็ตาม ผมต้องการที่จะแสดงอะไรที่ดีขึ้นไปเรื่อย ๆ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงได้ครีเอทท่าเต้นและเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ตลอดไงหละครับ ผมหมายถึงผมเปลี่ยนเทรนด์เสื้อผ้าในอัลบั้มนี้ สวมเสื้อกั๊ก และก็เปลี่ยนเทรนด์ในสไตล์ที่แตกต่างออกไป ผมต้องการที่จะเปลี่ยนเทรนด์อีกครั้งในอัลบั้มนี้ ซึ่งหากผมทำได้ นั่นก็จะตอบคำถามของคุณได้ด้วยไงหละครับ ทันทีที่คุณเห็นมัน ผมว่าคุณต้องชอบมันและนั่นก็หมายถึงผมได้ทำสำเร็จไปอีกขั้นนึงแล้ว คุณจะพบกับการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ในต้นปีหน้าครับ


L : อืม..นี่เป็นความเห็นส่วนตัวของฉันนะคะ ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าอัลบั้มหน้าจะเป็นโปรเจคที่ยิ่งใหญ่กว่านี้มากๆ ใช่มั๊ยคะ?


พี : มันจะเป็นโปรเจคที่....ใหญ่มาก ๆ เลยหละครับ ผมกำลังจะเดิมพันด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมมีเพื่อโปรเจคที่ยิ่งใหญ่อันนี้ครับ


L : แล้วในส่วนของเรื่องเพลง คุณตกลงจะทำกับคุณปาร์คหรือเปล่าคะ?


พี : อา...คือ..จริง ๆ แล้วพี่ปาร์คกับผมมีความเห็นที่ค่อนข้างจะแตกต่างกันนะครับในเรื่องของเพลง อืม..แตกต่างกันมากทีเดียวเลยหละครับ


L : จริงเหรอคะ?


พี : ครับ พี่ปาร์คกับผมมีความเห็นแตกต่างกันหลายเรื่อง แต่เราก็ยังทำงานร่วมกันได้ครับ ผมไม่มีทางที่จะปฏิเสธประสบการณ์ที่สั่งสมมานาน 13 ปีของเค้าได้หรอกครับ แม้ผมจะมีพลังเหมือนซุปเปอร์แมน แต่ผมก็รู้สึกว่าถ้าหากเราทั้งคู่สามารถจูนเข้าหากันได้อย่างลงตัว เราก็จะเป็นที่หนึ่งในสิ่งที่เราทำอยู่ ผมรู้ว่าผมต้องการอะไร และพี่ปาร์คก็มีความรู้ความชำนาญ นั่นคือสิ่งที่ทำให้เราสามารถทำงานร่วมกันได้ดีครับ และสำหรับอัลบั้ม ?How to Avoid the Sun? และ ?It?s Raining? นั้น ผมยังไม่คิดว่ามันเป็นมาสเตอร์พีซของผมหรอกนะครับ แต่ผมรู้ว่ามันคือสิ่งที่รวมเอาความเป็นอัลบั้มมารวมกันได้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้นก้าวต่อไปเราก็ควรที่จะทำได้ดีกว่านี้ สิ่งที่ผมกังวลมากที่สุดตอนนี้ก็คือ คราวนี้ผมควรจะแสดงอะไรดีนะ? ผมเฝ้าคิดถึงอีกมุมหนึ่งที่ผมสามารถแสดงได้ ผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดเพลงใหม่ขึ้นมาครับ

L : ถ้างั้นขอเข้าเรื่องเพลงเลยละกันนะคะ ฉันไปเจอประเด็นนึงในอินเตอร์เนทมาน่ะค่ะ คือคนมักจะมองคุณว่าเป็นนักเต้นมากกว่าเป็นนักร้อง คุณคิดยังไงคะ?


พี : มันก็จริงนะครับ ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่ามันมีทั้งข้อดีและข้อเสียในการเป็นนักร้องนักเต้นครับ ถ้าหากว่าผมเริ่มต้นด้วยการร้องเพลงเพลงหนึ่งและเรียกตัวเองว่าเป็นนักร้อง นั่นอาจจะไม่ทำให้ใครต่อใครพูดลับหลังหรือตัดสินว่าผมดีหรือไม่ดี เพราะผมเป็นแค่นักร้องไงหละครับ คนอาจจะพูดแค่ว่า ?เค้าก็ไม่เลวเท่าไหร่นี่? แต่หากผมเริ่มจากการเป็นนักร้องนักเต้น ผู้คนก็จะพูดว่าสิ่งที่ผมทำได้ก็คือการเต้น นั่นคือสิ่งที่มันเป็นจริง ๆ น่ะครับ นักร้องต้องรู้ว่าจะร้องอย่างไรให้ดี สิ่งที่เค้าต้องทำคือร้องเพลงให้ดีและรักษาสุขภาพของเค้าเอง แต่นักร้องนักเต้นต้องร้องไปด้วย เต้นไปด้วย และยังต้องแสดงประกอบการเต้นนั้นอีกด้วย แล้วมีใครมั๊ยครับที่จะร้องและแสดงไปด้วยระหว่างที่กำลังเต้นอยู่? ผมรู้สึกแบบนี้น่ะครับ นั่นเป็นทางเดียวที่จะนำเอาการแสดงที่ดีจริง ๆ ออกมาแสดงบนเวทีได้ ผมหวังให้ผู้ชมเห็นนักร้องนักเต้นในมุมที่ต่างออกไป นักร้องนักเต้นต้องผสานเอาท่าทางให้ลื่นไหลไปกับเพลงที่เค้ากำลังร้องอยู่ แสดงให้เห็นถึงความเป็นหนึ่งเดียวของการร้องและการแสดงบนเวทีให้ได้ ผมกล้าพูดได้เลยว่าผมแสดงสดทุกครั้งเมื่ออยู่บนเวที มีบางครั้งที่ผมจำเป็นต้องใช้ลิปซิงก์บ้างเพื่อเพิ่มความสมบูรณ์ให้กับการแสดงมากขึ้นและเพื่อควบคุมให้ได้โทนเสียงตามที่ต้องการ ผมอยากให้คุณเข้าใจอีกหน่อยเกี่ยวกับการเป็นนักร้องนักเต้นแบบนี้นะครับ


L : อืม... หมายความว่า คุณก็พูดได้สิคะว่าคุณแสดงไปด้วยความเข้าใจในการผสมผสานระหว่างดนตรีและเวทีได้ยังงั้นใช่มั๊ยคะ ถ้างั้นบอกหน่อยสิคะว่าคุณควบคุมการร้องยังไง? เพราะโดยปกติแล้วนักร้องนักเต้นอย่างคุณจะได้ทำงานร่วมกับโปรดิวเซอร์ที่มีชื่อเสียงและฉันคิดว่าโปรดิวเซอร์จะเป็นคนดูแลเรื่องการร้องเพลงให้คุณเอง


พี : เรื่องการร้องเหรอครับ อืม...ขอผมอธิบายเรื่องการฝึกฝนการร้องหน่อยละกันนะครับ ผมได้รับการฝึกฝนการร้องจากคน 3 คน คนแรกเป็นคนที่เคยร้องคอรัสมาก่อน คนต่อมาคือพี่ปาร์ค แต่ว่าตอนนี้ผมไม่ได้ฝึกการร้องกับเค้าแล้วหละครับ เพราะตอนนี้ผมได้เข้ารับการฝึกที่สตูดิโอของนักเรียนคนนึงของ Ray Charles ในสหรัฐน่ะ ครับ ผมได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างจากพวกเค้าในการหาสไตล์ของผมเอง แต่ผมไม่คิดว่าคนอื่นจะมองแบบนั้นหรอกนะครับ เค้ามักจะมองกันว่าใครเป็นคนทำเพลงมากกว่า เช่นว่า ถ้าพี่ปาร์คทำเพลงให้ผม สไตล์ของผมก็จะเหมือนกับพี่ปาร์ค แต่จริง ๆ แล้วผมต่างหากหละครับที่เป็นคนควบคุมเสียงร้องของผมเอง ผมว่าผมแตกต่างจากพี่ปาร์คนะ แน่นอนว่าต้องมีคนพูดว่า ?อะไรกันเนี่ย เพลงของเรนฟังดูเหมือนของพี่ปาร์คเลยนะ? ผมคงทำอะไรไม่ได้นอกจากซ้อมร้องซ้อมเต้นของผมต่อไปในแบบของผมเอง ร้องเพลงในแบบที่ผมอยากจะร้อง และเมื่อคุณเอาเพลงของพี่ปาร์คมารวมกับการร้องและการเต้นของผม ผลลัพธ์มันเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากมันคือเพลงของผมครับ


L : หมายความคุณควบคุมการร้องด้วยตัวคุณเองใช่มั๊ยคะ?


พี : ใช่แล้วครับ คุณว่ามันจะไม่น่าอายไปเหรอครับ ถ้าต้องอยู่ภายใต้เงาของคนอื่นทั้ง ๆ ที่เป็นอัลบั้มที่ 3 ของผมแล้วน่ะครับ?


L : แต่ จีฮุนคะ ในเรื่องของการร้องที่คุณพูดถึงน่ะ คุณก็ไม่สามารถแยกมันออกจากการเต้นได้เลยใช่มั๊ยคะ อืม...ยกตัวอย่างนะคะว่า คุณอาจลองปรับการหายใจให้เข้ากับการเต้นได้ แต่ก็มีบางช่วงในเพลงที่คุณต้องให้น้ำหนักในการร้อง หรือคุณอาจจะต้องให้ความสำคัญกับการเต้นมากเป็นพิเศษ คุณเคยคิดถึงเรื่องนี้มั๊ยคะตอนที่คุณเต้นน่ะค่ะ?


พี : อืม...จริง ๆ แล้วผมแสดงสดทั้งร้องทั้งเต้น 100% เลยครับ


L : หือ? แสดงสดเหรอคะ?


พี : ใช่ครับ ทั้งร้องและเต้นเลยครับ เพราะเวลาเต้นผมจะเต้นตามที่ผมรู้สึกผมเลยร้องสดได้ จะพูดยังไงดีหละครับ คือว่าผมเต้นไปตามความรู้สึกของผมในขณะที่ผมร้องเพลงอยู่น่ะครับ ผมไม่ได้คิดไว้ว่าจะต้องเต้นยังไงเป๊ะ ๆ เพราะฉะนั้นมันเลยเป็นแบบถ้าเต้นไปแล้วเหนื่อยเกินไปจนร้องเพลงไม่ได้ ผมก็สามารถที่จะหยุดพักการเต้นในจังหวะนั้นซักนิดก็ได้จริงมั๊ยครับ มันขึ้นอยู่กับการลื่นไหลของการแสดงตอนนั้นมากกว่า เหมือนกับการแสดงน่ะแหละครับ การแสดงของผมก็ขึ้นอยู่กับว่าอีกฝ่ายนึงส่งความรู้สึกและการแสดงมายังไง มันลื่นไหลตามปัจจัยแวดล้อมตอนนั้นมากกว่าครับ


L : ถ้ายังงั้นคุณก็คิดเฉพาะท่าเต้นพื้นฐานไว้ แล้วที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ตอนนั้นใช่มั๊ยคะ?


พี : ใช่แล้วครับ

L : จากที่คุณบอก ดูเหมือนว่าปัจจัยแวดล้อมขณะนั้นถือว่าสำคัญนะคะ คุณเป็นนักเต้นที่มีพรสวรรค์และคุณก็เต้นได้ดีด้วย แต่ฉันยังเชื่อด้วยว่าท่าเต้นและการแสดงในอัลบั้ม ?How to Avoid the Sun? นั้นถูกออกแบบมาเพื่อให้เข้ากับคอนเซ็ปต์งาน Mnet และฉันว่ามันเป็นหนึ่งในขั้นตอนการเตรียมตัวสำหรับคอนเสิร์ตของคุณใช่มั๊ยคะ? มันมีอะไรเชื่อมโยงกับการแสดงของคุณด้วยหรือเปล่าคะ?


พี : แน่นอนครับ ทุกอย่างมันควรจะเป็นขั้นเป็นตอน ยกตัวอย่างง่าย ๆ อย่างเวลาที่คุณจะสอบ คุณจะอ่านหนังสืออย่างเอาเป็นเอาตายในคืนก่อนวันสอบกันใช่มั๊ยครับ แต่หนึ่งเดือนก่อนหน้านั้นคุณยังไม่รู้ร้อนรู้หนาวเลย (หัวเราะ) ผมหมายถึงที่คุณพูดถึงความคาดหวังก่อนหน้านี้น่ะครับ ถ้าเราเครียดอยู่ตลอดเวลา คนอื่นก็จะรู้สึกว่าเราเหนื่อยหรือสิ่งที่เราทำอยู่มันหนักเกินไปสำหรับเรา และคุณก็จะถูกมองว่าคุณแค่ดูเหมือนว่าจะเต้นได้เท่านั้นเอง แต่จริง ๆ แล้วคุณเต้นไม่ได้หรอก แล้วอยู่ ๆ วันนึงมันก็อาจจะระเบิดขึ้นมาก็ได้นะครับ ผมเชื่อว่าเราควรจะมีการวางขั้นตอนที่เหมาะสม อย่างในคอนเสิร์ตของผม มันก็จะมีช่วงไคลแมกซ์ของมันเองซึ่งผมคิดเอาไว้แล้วว่าจะเป็นช่วงไหน แล้วช่วงไหนควรแสดงอย่างไร ทั้งการแสดง การเต้นหรือภาพรวมของคอนเสิร์ทมันต้องดูลื่นไหลและต้องสามารถทำให้ผู้ชมรู้สึกอยากขยับตามไปด้วยน่ะครับ


L : นั่นแหละค่ะเรน ที่ทำให้ฉันรู้สึกว่าคุณเป็นดาราจริง ๆ คุณสามารถนำเอาการแสดงและดนตรีมาผสมผสานเป็นหนึ่งเดียวได้อย่างลงตัว แล้วความแตกต่างสำหรับการแสดงและดนตรีในความหมายของคุณคืออะไรคะ?


พี : การแสดงมันเป็น ?งาน? ที่ผมต้องการจะทำมันจริง ๆ ครับ แต่การเต้นมันเป็นตัวผมน่ะครับ ส่วนเรื่องการร้องเพลงมันเป็นสิ่งที่ทำให้ผมเต้นได้หลากหลายขึ้นครับ จะพูดยังไงดีหละ คือว่าเหมือนมันเป็นจิตวิญญาณของผมน่ะครับ ผมได้ระบายความเครียดจากการแสดงไปกับการร้องเพลง และผมก็ได้ระบายความเครียดจากการร้องเพลงไปกับการแสดงด้วยเหมือนกัน อืม...ผมว่าต้องเป็นคนที่ทำสองอย่างนี้เหมือนกับผมถึงจะเข้าใจสิ่งที่ผมต้องการจะบอกได้น่ะครับ การที่ทำสองสิ่งนี้พร้อม ๆ กัน มันไม่ได้เป็นการทำให้คนอื่นพึงพอใจนะครับ แต่ที่ผมต้องการจะทำมัน ก็เพราะมันเป็นสิ่งที่ต้องการจะทำเพื่อตัวผมเองซึ่งคุณจะเห็นได้จากการร้องและการเต้นที่ทรงพลังมาก ๆ ของผม


L : แต่สองสิ่งนี้มันก็เป็นองค์ประกอบสำคัญในการบุกตลาดต่างประเทศของคุณใช่มั๊ยคะ คุณเริ่มต้นจา
กั้งกั้ง
[ 10-10-2006 - 20:47:13 ]







ขอบคุณกั๊บ คุงปุ๊ยที่เอาบทสัมภาษณ์ดีดีมาให้อ่านนะคะ
ขอบคุณกั๊บ คุงยุ้ยแล้วก็ทู๊กๆๆๆๆๆๆๆๆๆคนเยยที่เอารูปหล่อๆมาให้สูบ
รวมทั้งข่าวคราวทั้งหลายแหล่
กั้งกั้ง
[ 10-10-2006 - 21:29:51 ]







>>>น้องSunmiจ๊ะเข้ามาบ่นอะไรพึมพำๆจ๊ะไหนว่าเรนไปเฝ้าทุกวันยังจะเหงาอีกเหยอ555555
>>>ดีกั๊บApple >>>ดีกั๊บออย >>> ดีกั๊บhanunคิดตึ๋งนะ>>>ดีกั๊บTaTha >>>ดีกั๊บอ้อย >>>ดีกั๊บเอ้>>>ดีกั๊บน้องแนน..น้องเฟิน...เปล....จอย...น้องเจนคิดตึ๋งๆ

>>>คุงยุ้ย เด็กปั๊มหน้าตาดีคนนี้ทำงานที่ปั๊มไหนเนี่ยจไปใช้บริการอิอิ
กั้งกั้ง
[ 10-10-2006 - 21:58:51 ]







>>>>น้องเจนกั๊บ พี่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ไม่ต้องไปไกลถึงเกาหลีหรอกรออีกนิดนุง เรนก็จะมาหาเราแว้วววววววว.....เนี่ยพี่กะว่าจะแต่งตัวเด่นๆเผื่อจะเป็นหญิงผู้โชคดี ได้เป็นคนพิเศษ(ช่วงขอแต่ง)ที่เรนขอแต่งอ่ะนะกะจะทำพิธีบนเวทีกันเลยทีเดียว.....ให้แฟนๆร่วมเป็นสักขีพยาน แล้วกะว่าจะเชิญเจ้าหน้าที่จากเขตไปด้วยเรย เรนขอแต่งเสร็จปุ๊บจดทะเบียนสมรสปั๊บเลยทีเดียว อาศัยช่วงที่เรนกะลังเต้นเหนื่อยๆกำลังเบลอๆเอ้าเซ็นก็เซ็น จดก็จดวะ อะไรอย่างนี้ เหอเหอเหอ (แผนการณ์อันชั่วร้าย)
TATAH
[ 10-10-2006 - 22:59:03 ]







คุงยุ้ย...ทำงานหนักป่าวค้าบ...วันนี้ไม่เห็น on เยย...คิดถึ๊งคิดถึง
คุงhanun .... ม่ายด่ายคุยกันเลย....ป๋มงานยุ่งอ่ะคับ..แต่คิดถึงมั่กมาก
ดีด้วยคับคุงกั้งกั้ง...
คุงปุ้ย....ขอบคุณคับสำหรับบทสัมภาษณ์ ... อ่านซะเมื่อยเลย...แต่
อ่านไปยิ้มไปนะฮับ
ดีด้วยคับคุงapple คุงออย คุงแนน ดีค่าคุงเจน คุงเอ้....ว้า ไม่ค่อยรู้คร่ายเป็นคร่าย เห็นหมดในบ้านก้อ หวัดดีทุกคนนะคับ......
TATAH
[ 10-10-2006 - 23:07:11 ]







เฮ้อ....ม่ายรู้ว่าบ้านใคร น้ำท่วมบ้าง...... แต่ว่าแถว เพชรบุรี กะ ประตูน้ำ น้ำท่วมถึงหัวเข่าเลยอ่ะคับ.......ป๋มเดินลุยน้ำมาตลอดจนถึงหอเลย แล้วเหตุการณ์ที่ไม่ขาดฝันก้อเกิดขึ้น............... ป่าวค้าบบบบม่ายได้เกิดกะป๋มอ่ะ..... แต่ว่าผู้หญิงที่เดินลุยน้ำอยู่ข้างหน้าเรา ประมาณ 2 เมตร อ่ะ มีงูตัวดำใหญ่มั่กมาก มันว่ายน้ำมาหาเธอ โชคดีที่เธอหลบ ทัน..... อืมความจริงงูมันคงไม่อยากทำร้ายใคร มันก้อแค่หนีเอาตัวรอด....... (แต่ถ้ามารัดล่ะก้อ...อิอิอิ..แปลว่าเรนจามาขอป่าวเนี่ย...5555) แต่ก้ออยากให้เพื่อนๆระวัง....ด้วยนะคับ..... ยิ่งฝนตก อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ...ไงก็ดูแลรักษาสุขภาพ นะคับ...........ด้วยรักและห่วงใย......จีฮุนประกันชีวิต......อิอิอิอิ ฝันดีคร๊าบบบบบบบบบบ
dancing dream
[ 11-10-2006 - 09:49:24 ]







ออยคร้า... อัน ยองๆนะคร๊า!!!

เมื่อวานมีใครติดฝนกลับบ้านม่ายด้ายอะป่ะเนี้ยะ..?
รักษาสุขภาพด้วยนะคร้า

คุง Apple - เอาภาพพีนึนมาฝากให้บ้านเราได้อมยิ้มอีกแล้ว ขอบคุงมากมายนะคร้า

คุงปุ้ย - ขอปรบมือให้ดังๆๆๆๆๆๆ ให้กับคุณงามความดีครั้งนี้ ที่มีความอุตสาหพยายามพิมพ์บทสัมภาษณ์ที่ยาวเหยียด ให้เราได้อ่านกันอย่างมีความสุข ขอบคุงมั๊กมาย พอได้อ่านบทสัมภาษณ์แล้วคิดว่าถ้าเป็นเราเจอคำถามยากๆแบบนั้นจาตอบยังไงเนี้ยะ บางทีฟังคำถามแล้วยังม่ายเข้าจัยเยยว่าเขาถามอารัยเนี้ยะ แต่พีนึนเนี้ยะตอบเก่งจริงๆเลยนะ
แล้วก็ปลื้มเชียวตอนที่พีบอกชอบพวกเราชาวเนตเนี้ย เขาเรียกว่าอะไรนะขอกลับไปดูอีกที..........อ๋อ! Netizen OK! พวกเราเป็นNetizen เย เย้

คุงกั้งกั้ง - ถ้าพีมาเล่นคอนเสิร์ตครั้งหน้าที่บ้านเรา เราเองก็จาไม่พลาดเหมียนกัน งานนี้สงสัยเราต้องแต่งตัวแข่งกันหน่อยแล้ว....

คุงTatah - รักษาสุขภาพนะคร้า เดินรุยน้ำแล้วรีบล้างเท้าอาบน้ำทันทีเลยนะคร้า ถึงจะชอบเรนก็เถอะแต่ถ้าเรนกระหน่ำตกบ้านเราขนาดนี้ก็ม่ายหวายเหมียนกันนะเนี้ยะ

คุงน้องเจน คุงแนน คุงจอยและก็คุงๆทุกคงที่ตอนนี้เอ่ยชื่อม่ายไหวแล้วรักนะคร้า
jane-ji-un
[ 11-10-2006 - 11:19:10 ]







หวัดดีค่ะ ทุกๆคน ช่วงนี้ฝนตกบ่อย เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะกับการต้องรักษาความสะอาดมากๆ เพราะมีโอกาสที่เชื้อโรคได้ง่าย

พี่เอ้ -- หายไปไหนคะ ไม่เข้าบ้านหลายวันแล้ว คิดถึงและเป็นห่วงพี่มากนะคะ

พี่ยุ้ย -- ก็ยังรักพี่เหมือนเดิม คิดถึงมากด้วยนะคะ ...เรนคงเหนื่อยนะคะ ช่วงนี้ เพราะงานเยอะมากเลย น่าสงสารจังค่ะ อยากให้เรนไปพักผ่อนบ้างนะคะ .....

พี่อ้อย -- ไม่ขำเยยเหยอออออ 555 เจนก็อยากให้ขำกันน่ะค่ะ จะได้ไม่เครียดงัย รักและคิดถึงเสมอค่ะ

พี่ปุ้ย -- ซารังเฮ........จริงๆนะคะ คอนฯเรนคราวนี้ต้องเจอกันให้ได้เนอะๆ



และถึงคนอื่นๆ อีกทุกๆคนค่ะ รักและคิดถึงเสมอค่ะ แล้วเจนจะเข้ามาบ้านบ่อยๆ ค่ะ

นู๋เจน....
dancing dream
[ 11-10-2006 - 16:37:41 ]







ส่งท้ายก่อนกลับบ้านจ้า!! ใกล้ 5 โมงเย็นแล้ววันนี้ฝนไม่ตกด้วยแฮะไปแอโรบิกที่โลตัสดีก่าจาได้แข็งแรงแบบพีนึนเข้าน่ะ....

คัม ซา ฮัม นิดา เจ้าคร้า
dancing dream
[ 11-10-2006 - 16:42:59 ]









คนอารัยม่ายรู้ทำอารัยก็น่าร๊าก...กกกไมโหม๊ด++
yuri
[ 11-10-2006 - 20:27:21 ]







อันยอง ค่ะ
ภาพจาก shocase
pleayuan
[ 12-10-2006 - 08:18:00 ]







อันยอง!!! คร๊าทุก ๆ คน

ยุ้ย : เปลเข้าไปหมัก SBS ได้แล้วอ่ะ ..... ตะว่า เนตไม่แรงพอดูม่ายด้ายยยยยยย จาทำไงดี ขาดใจตายแน่ๆๆๆๆ

กั้ง : คิดถึงนะตัวเอง

เจน : สบายดีป่ะคะ ภูเก็ตพีนึนไปเยี่ยมหนักอะป่าว รักษาสุขภาพด้วยนะ

เอ้ : ไว้ออนคุยกานนะคะ

คุงปุ้ย : ขอบคุงนะที่เอาบทสัมภาษณ์ดี ๆ มาฝาก อิอิ ชอบๆๆๆๆ

ยองๆๆๆๆ คุงแนน คุงอ้อย คุง Tatah คุงออย และ คุงๆๆๆๆ ทุกคนที่รักพี มากมาย
yuul
[ 12-10-2006 - 09:32:30 ]







dd
[ 12-10-2006 - 09:35:45 ]







ยองๆ ยามสายค่าทุกท่าน

พี่ยุ้ย...เฮ้อ..คิดฮอดอ่าอยากเม้าๆๆๆ

นกฮุกหมวย..ต๊กกะจายหมดมะคืนมี sms ผีสิงมา5555+ รักเช่นกัลลล

หญิงอ้อย..คิดตึ๋งมากมายก่ายกองงงงงงง

แนนน้อย...คิดออดอ่า...

เจน..พี่รอนะ..สู้ๆๆๆ

pleayuan ..ไว้ออนกัลลลเอาแมวมาจิ..เด่วเราแอดหา

dancing dream ..จะได้คุยกัลลลมั้ยหนอออออ...

ทุกท่าน..ยองๆ ค่า
jane-ji-un
[ 12-10-2006 - 10:38:33 ]







พี่เอ้....หนังเรื่องนี้ใช่ป่ะคะ.....................ถ้าใช่งั้นเจนก็ถูกแล้ว กำลังให้เพื่อนเช็คให้อยู่นะคะ ......รอนี้ดสสสสสส์ นึงเน้อออออ
dancing dream
[ 12-10-2006 - 10:46:22 ]







ยอง ยองคร้าทู้กคง...

คุงยุ้ย- เอาภาพshowcase มาฝากทำให้เราอยากซะงั้น..อ้อ!ไอ้ที่ว่าอยากนี่คืออยากไปดูน่ะ และก็อิจฉาแฟนเกาหลีซะจริงๆเลย

คุงเปลญวน- เข้าบ้านบ่อยๆนะคะเพราะเดี๋ยวนี้เรนกระหน่ำทู๊กวันเลยคร้า

คุงdd- เราก็มีชื่อเล่นนะเรียกเราว่า อ อ ย ก็ร่ายนะคร๊า ว่างๆก็เข้ามาคุยกันที่บ้านนี้ด้ายนะคร๊า

น้องเจน คุงtatah คุงปุ้ยและคุงๆที่รักพีนึนทั้งหลายพรุ่งนี้ช่วยกันส่งใจไปให้พีนึนในงานshowcase กันหน่อยนะเอาเป็นว่านั่งฟังเพลงหรือ
ดูวีซีดีชุดเก่าของเขาไปก่อนแล้วกันนะ เอ้า!พวกเราร้องพร้อมกัน it"s raining it"s raining!!!!!!!!!!

dancing dream
[ 12-10-2006 - 10:52:40 ]







ดูภาพพีนึนข้างบนซิเห็นรองเท้าของเขามั๊ย!!!!!
เขาสูง184ซม. แล้วยังม่ายพออีกหร๋อเนี้ยะ!! นี่กะจะสูงให้เรามองเห็นจากประเทศไทยเลยรึเปล่าน้อ
dancing dream
[ 12-10-2006 - 11:04:41 ]







อันนี้ให้ไว้สำหรับพวกเราที่ม่ายด้ายดูshowcase
dancing dream
[ 12-10-2006 - 11:12:20 ]







แป่ว.....ว.ว....รูปม่ายขึ้น ขอโต๊ดคร๊า..
ต้องสมัครเป็นสมาชิกและ login เข้าสู่ระบบก่อนถึงจะสามารถลงความเห็นได้

เว็บนี้มีการใช้งาน cookie
ยอมรับ
ไม่ยอมรับ