♥ FEI LUN HAI_S.H.E_DT FAMILY ♥

~! S H K > > F C!~
[ 30-04-2008 - 17:44:01 ]







~! S H K > > F C!~
[ 30-04-2008 - 17:45:16 ]







สุดท้ายและท้ายสุดละ ตาพี่ถังดันแดงข้างนึง เฮ้อ...เซง
แม่นางฮวาจิน
[ 30-04-2008 - 17:54:58 ]









คลิปงาน MEEt พี่ถัง ที่แก้มมี ส่งให้พี่อ้อนไปแล้ว ใครอยากได้ ก้อมารับได้ที่แก้มหรือพี่อ้อนนะคะ เพราะแก้มฝากไฟล์ไม่เปนอ่ะ เลยไม่ได้เอามาอัพไว้ทีนี่ ต้องขอโทษจริง ๆ อยากได้ก้อมารับทาง MSN ก้อได้นะคะ

Edit Date : 2008-04-30 ( 17:55:30 )
~! S H K > > F C!~
[ 30-04-2008 - 17:57:05 ]







Quote : แม่นางฮวาจิน


คลิปงาน MEEt พี่ถัง ที่แก้มมี ส่งให้พี่อ้อนไปแล้ว ใครอยากได้ ก้อมารับได้ที่แก้มหรือพี่อ้อนนะคะ เพราะแก้มฝากไฟล์ไม่เปนอ่ะ เลยไม่ได้เอามาอัพไว้ทีนี่ ต้องขอโทษจริง ๆ อยากได้ก้อมารับทาง MSN ก้อได้นะคะ


Edit Date : 2008-04-30 ( 17:55:30 )
แม่นแล้ว หลังไมค์ ขี้เกียจอัพ
~! S H K > > F C!~
[ 30-04-2008 - 18:02:08 ]







เงียบหมด แสดงว่าไปหมดแล้ว งั้นไปอัพอิไฟว์สักหน่อย
naru-hara
[ 30-04-2008 - 18:53:53 ]







หวัดดีตอนเย้นๆคร๊าบบบบบบบบบบบ ..หิวข้าวจังเลยอ่ะ
naru-hara
[ 30-04-2008 - 18:56:16 ]







Quote : Wo De Xin

รูปนี้คุนหลุน..ร้องไห้เท่บาดใจ..เอิ้กๆ
naru-hara
[ 30-04-2008 - 19:00:52 ]







ไปอ่านข้อความมาค่ะ..พี่ถังเจอแหวนแล้ว..ดีใจมากมาย น้ำตาแทบรื้น

ปลื้มที่คนไทยไม่ทำให้พี่ถังคิดอคติด้วย ที่รู้ข่าวที่เกิดขึ้นหนูก็รู้สึกไม่ดีเลย ...แต่ว่าตอนนี้..ดีใจดีใจ ดีใจมากมาย touched:
naru-hara
[ 30-04-2008 - 19:01:59 ]







อ่ะนะ...ไม่มีใครอยู่..เราคุยอยู่คนเดียวเฮะ..555+
Wo De Xin
[ 30-04-2008 - 19:02:54 ]







หวัดดี
พี่นารุ
Wo De Xin
[ 30-04-2008 - 19:37:46 ]







ไม่มีคัยอยุ่เลย
บอร์ดเงียบ
naru-hara
[ 30-04-2008 - 20:12:24 ]







นั่นสิ...เงียบ
Wo De Xin
[ 30-04-2008 - 20:18:44 ]







เรื่องเศร้าที่อยู่เบื้องหลังความสดใสของสี่หนุ่ม FRH
สี่หนุ่มที่เต็มไปด้วยความสดใสร่าเริงและดูสบายๆอย่าง FRH พวกเขาดูน่ารักและมีความสุขตลอดเวลา แต่จริงๆแล้วลึกในจิตใจของแต่ละคนนั้น ล้วนมีเรื่องเศร้าซ่อนอยู่ภายใน แม่ของจุนได้เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็ง พ่อของจิโร่เสียชีวิตด้วยโรคเบาหวาน แฟนเก่าของแอรอลเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เคลวินแม้ไม่มีประสบการณ์ใดๆเกี่ยวกับความตาย แต่เรื่องเศร้าของเขา กลับเป็นเรื่องราวของตนเองในอดีต


เคลวินไม่สามารถหย่างเท้ากลับเข้าบ้านตนเองได้
ความฝันสูงสุดของเคลวินแต่ไหนแต่ไรมานั้น คือการเป็นนักร้อง เป็นศิลปิน เมื่อเขาตั้งใจจะเลิกเรียนที่แคนาดา พ่อของเขาไม่พอใจอย่างมาก และทะเลาะกันใหญ่โต และจุดจบของความไม่ลงรอยในครั้งนี้ไม่มีทางจะเกิดขึ้นเพราะเลวินเลือกที่จะจากไป

ครอบครัวของเคลวินเขาไม่เคยต้องการให้เคลวินเป็นนักร้องเลย แม้ว่าเคลวินจะเดินทางกลับมาไต้หวันแล้ว เขายังต้องก้าวตามความฝันของเขาอย่างหลบๆซ่อนๆเบื้องหลังพ่อของเขา

“ตอนนั้นผมอยู่ใกล้บ้านมากฮะ เดินไม่ถึงสิบนาทีก็ถึงแล้ว แม้ว่าผมจะอยู่ใกล้แค่นั้น แต่ผมกลับเข้าบ้านไม่ได้”
เคลต้องมาขออาศัยอยู่กับเพื่อนประมาณเดือนครึึ่ง และแม่ของเขาก็ต้องแอบไปหาเขาเวลาพ่อไปทำงาน แต่เพราะว่าเวลามีน้อย เธอจึงพบหน้าเคลได้เพียงช่วงสั้นๆ และไม่สามารถแม้แต่จะทานข้าวเย็นกับลูกชาย
”ตอนนั้นพ่อเองก็รู้สึกประหลาดใจอยู่เหมือนกัน ที่ผมจะโทรคุยกับพ่อได้แค่เวลาวันหยุด และเขาก็ไม่เคยโทรเจอผมเองเลย”

แต่มันก็เป็นอย่างนั้นได้เพียงจนกระทั่งถึงประมาณกลางเดือนมีนา เคลรู้ดีว่า เขาไม่สามารถทำเช่นนั้นต่อไปได้นาน เขากลับบ้าน และหลอกพ่อว่า เขาเพิ่งเดินทางกลับมาจากแคนาดา เขาอยู่ที่บ้านประมาณ สองเดือน ความฝันที่จะเป็นนักร้องของเขาก็ยังไม่ไปถึงไหน

“ผมรู้สึกไร้ค่ามากที่อยู่แต่ทีบ้าน ไม่ได้ทำอะไร ผมเลยไปเป็นครูสอนภาษาอังกฤษในช่วงเดือนพค"

แต่มันก็เป็นแบบนั้นไปจนกระทั่งพวกเขาได้ถ่ายละครเรื่องจงจี๋อี้ปัน และได้ฟอร์มวง FRH ซึ่งค่อนข้างจะเป็นคะแนนที่ดูดีในการโชว์พ่อของเขา



แอรอลผู้เฝ้ารอคอยความรัก
ปัญหาของแอรอลคิือเขาเป็นคนที่คิดมากเกินไป เขาบอกว่า “ผมเป็นคนที่น่าเบื่อและชอบเก็บตัวฮะ ผมคิดเสมอว่า ผมสามารถทำทุกๆอย่างด้วยตัวของผมเอง และไม่เคยต้องการจะให้คนอื่นมาเข้าใจความรู้สึกของผม อาจจะเป็นเพราะผมไม่ชอบที่จะพูดคุยกับคนอื่น และผมยังไม่รู้ และไม่ชอบที่จะแสดงอารมณ์ออกมา ผมเลยเก็บทุกอย่างเอาไว้ภายใน”

แต่เมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่เปลี่ยนแแปลงไปหลายๆอย่าง เนื่องจากความฝันของแอรอลนั่นคือการเป็นนักร้อง แต่เขาต้องเริ่มต้นด้วยการเป็นนักแสดงก่อนในขั้นต้น คือจากเรื่องจงจี๋อี้ปัน เขาเองไม่เคยมีความมั่นใจในการแสดงมาก่อนเลย เขาชอบที่จะร้องเพลงมากกว่า ประกอบกับการเรีบนที่หนักและความเครียดที่มีมากมาย ในที่สุดแอรอลถึงกับร้องไห้ในระหว่างการถ่ายทำละครเรื่องจงจี๋อี้ปัน เขาร้องมากๆจนกระทั่งเครื่องสำอางละลายหมด แถมยังไม่หยุดแม้กระทั่งถึงที่บ้าน จนครอบครัวของเขาตกใจที่เห็นหน้าเขาเป็นอย่างนั้น แต่เขาได้แต่ตอบที่บ้านว่า “ผมไม่เป็นไรๆ”

เมื่อถามถึงเรื่องขาของเขาที่หักไปจากการถ่ายทำเอ็มวีตัวแรก wo you wo de woung เขาตอบว่า
“ตอนผมรู้ว่าผมจะเต้นไม่ได้เกือบครึ่งปี มีคำถามต่างๆผุดขึ้นมาให้หัวของผมมากมาย การที่ขาหักครั้งนี้เป็นสิ่งที่ผมเสียใจที่สุด และมันก็เป็นความโง่อย่างที่สุดของผมด้วย ผมได้แต่ถามตัวเองว่า ผมจะทำวง FRH หล่มหรือปล่าว”

ระหว่างที่ให้สัมภาษณ์นั้น จุนนั่งอยู่ข้างๆเขา จึงแซวขึ้นมาว่า “ใช่แล้วๆ นายทำวงหล่ม” แอรอลเลยชี้หน้าจุนและฟ้องนักข่าวทันที “ดูสิฮะ”

”ครอบครัวคือสิ่งที่อยู่ลึกที่สุดในหัวใจของผมฮะ และก็เป็นจุดอ่อนที่สุดของผมเหมือนกัน ตลอดมาผมอิจฉาครอบครัวที่มีพ่อและแม่พร้อมหน้าพร้อมตากันเสมอ "

ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและพ่อนั้น เป็นไปอย่างห่างเหินมาก “วันที่ผมผ่าตัดขา พ่อกับแม่มา หาผม และนั่นทำให้บรรยากาศเปลี่ยนไปโดยทันที แม่แทบจะอุ้มผมขึ้นลงทุกๆวัน ผมเองก็อยากจะบอกพ่อกับแม่ว่า สิ่งที่พวกท่านทำให้ผมนั้น ผมเองรู้ดี และเมื่อผมมีโอกาส ผมจะทำให้พวกท่านมีช่ววเวลาที่มีความสุข”


อู๋จุนพูดเกี่ยวกับแม่ของเขา
แม่ของอู๋จุนเสียชีวิตลงจากโรคมะเร็งเมื่อสี่ปีที่ผ่านมา จุนไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้รู้ในตอนแรก ถึงตอนนี้ จุนยังเก็บรูปของแม่และเขาเอาไว้ มันเป็นรูปตอนที่แม่ของเขาบินไปร่วมงานรับปริญญาของเขาที่ออสเตรเลีย วันนั้น จุนพาแม่ไปทานอาหารทะเล แม้กระทั้งในช่วงเวลานั้น จุนเองไม่ได้รู้ถึงอาการเจ็บป่วยของแม่เขาเลย การเก็บรูปแม่ของเขาเอาไว้ ทำให้เขารู้สึกว่า แม่ยังคงอยู่กับเขา


จิโร่กับกำไลข้อมือน้ำโชคของเขา
จิโร่บอกว่า เมื่อพ่อของเขาไม่สบายนั้น แม่ของเขาเป็นคนดูแลเขา เมื่อพ่อเสียชีวิตลง แม่ก็หวังว่า จิโร่จะหางานที่มั่นคงทำ แต่ในที่สุด เธอก็หันมาสนับสนุนความฝันของลูกชายของเธอในวงการบันเทิง ที่ข้อมือของเขา เขาได้ใส่กำไลนำโชค ที่แม่ให้เขาไว้ตั้งแต่สมัยเรียนไฮสคูล และจิโร่ก็เชื่อว่าตราบนานเท่าที่เขาใส่มัน ทุกๆสิ่งจะเป็นไปโดยความราบรื่น

ตุ้มหูของแอรอล
แอรอลและแฟนเก่าของเขาได้เคยไปซื้อตุ้มหูด้วยกัน และเพื่อเก็บความทรงจำนี้เอาไว้ หลังจากที่แฟนของเขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิต เขาจึงใส่ตุ้มหูนี้ไว้ เพื่อเตือนให้ตัวเองถนอมความรู้สึกกับคนรอบข้าง


เคลวินกับเลขนำโชค
เคลวินชนะเลิศการประกวดซันไซด์บอยที่แคนาดา และเลขในการประกวดของเขาตอนนั้นคือเลข เจ็ด ดังนั้นเขาเลยเชื่อว่าเลข เจ็ดเป็นเลขนำโชคของเขา

naru-hara
[ 30-04-2008 - 20:27:22 ]







~! S H K > > F C!~
[ 30-04-2008 - 20:30:01 ]







วอลพี่ถัง IK_Q

หวานจิบ หุหุ


~! S H K > > F C!~
[ 30-04-2008 - 20:51:29 ]







Close Home
ILiKeElLa
[ 01-05-2008 - 01:48:53 ]








ILiKeElLa
[ 01-05-2008 - 01:49:24 ]








ILiKeElLa
[ 01-05-2008 - 01:51:36 ]







ILiKeElLa
[ 01-05-2008 - 01:53:38 ]







ต้องสมัครเป็นสมาชิกและ login เข้าสู่ระบบก่อนถึงจะสามารถลงความเห็นได้

เว็บนี้มีการใช้งาน cookie
ยอมรับ
ไม่ยอมรับ